กาแฟ เครื่องดื่มเปี่ยมคาเฟอีนแก้วโปรดของใครหลายคน ที่นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและคลายความง่วงเหงาหาวนอนแล้ว กาแฟก็ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถดื่มกาแฟได้โดยไม่มีผลข้างเคียง ในบางคนนอกจากจะมีอาการใจสั่น ปวดหัว และปวดปัสสาวะบ่อยแล้ว อีกอาการหนึ่งที่คอกาแฟหลายคนอาจจะเคยพบเจอก็คืออาการท้องเสียหลังจากดื่มกาแฟ แต่ทว่าอาการเหล่านี้ถือเป็นความผิดปกติของร่างกายหรือเกิดจากฤทธิ์ของกาแฟกันแน่ วันนี้เราจะหยิบเรื่องนี้มาชี้แจงแถลงไขขจัดข้อข้องใจกันค่ะ

          สาเหตุที่หลายคนดื่มกาแฟแล้วท้องเสียนั่นก็เป็นเพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟนอกจากจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอีกด้วย โดยสารเคมีจะเข้าไปทำให้ลำไส้ใหญ่หดตัวและคลายตัวเช่นเดียวกับตอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ จึงอาจทำให้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำได้
 

ดื่มกาแฟแล้วท้องเสีย

 
          นอกจากนี้กรดธรรมชาติที่อยู่ในกาแฟยังไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างน้ำดีและหลั่งน้ำดีจากถุงน้ำดีเข้าไปยังลำไส้เป็นเหตุให้ท้องเสียได้นั่นเอง โดยอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะท้องว่างหรือไม่ แต่ถ้าหากดื่มหลังจากตื่นนอนในช่วงที่กำลังท้องว่างอาการจะแสดงออกเร็วกว่า เนื่องจากคาเฟอีนจะถูกดูดซึมไปใช้ไนทันที ดังนั้นจึงมีการแนะนำว่าไม่ควรดื่มกาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนมากกว่าวันละ 200 มิลลิกรัม หรือประมาณวันละไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องเสีย

          อย่างไรก็ตามการดื่มกาแฟไม่ได้ส่งผลทำให้ท้องเสียเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำได้อีกด้วย โดยถ้าหากบริโภคคาเฟอีนมากกว่าวันละ 500-600 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่ากับกาแฟ 5-6 แก้วต่อวัน ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากเกิดอาการท้องเสียก็ควรจะหันมาดื่มชาแทน เพราะชาถึงจะมีคาเฟอีน แต่ก็มีในปริมาณน้อยกว่ามากและไม่ส่งผลทำให้ลำไส้เกิดการแปรปรวนอีกด้วยค่ะ

          ได้ทราบกันไปแล้ว ต่อไปนี้ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองท้องเสียหลังดื่มกาแฟบ่อย ๆ ก็ลดปริมาณคาเฟอีนลงก็แล้วกันเนอะ หรือไม่ก็เปลี่ยนมาดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีนน้อยกว่า อย่างเช่น ชาร้อน โกโก้ร้อน ก็ช่วยทำให้ตื่นตัวได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะต้องวิ่งหาห้องน้ำเพราะท้องเสียทีหลังยังไงล่ะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
huffingtonpost.com  
onemedical.com 
livestrong.com