90% ของผู้หญิงก็มีเซลลูไลท์ทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากมีหรอกไช่มะ เพราะฉะนั้นจึงมีทั้งยากินยาทาและคอร์สนั่นนี่โน่นออกมาโฆษณาชวนเชื่อกันว่าสามารถขจัดเซลลูไลท์ออกไปจากชีวิตเราได้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำออกมาก็ไม่ค่อยจะได้ผล มาดูความเป็นจริงไม่อิงนิยายเกี่ยวกับเจ้าเซลลูไลท์กันดีกว่า


1. การอาบแดดสามารถช่วยขจัดเซลลูไลท์ได้

ความจริง: การอาบแดดอาจจะทำให้ดูเหมือนลดลงเพราะการที่สีผิวคล้ำขึ้นก็มองว่ามันดูจางลง แต่ความจริงก็คือมันจะส่งผลเสียระยะยาวให้กับผิว เพราะการอาบแดดมากเกินไปทำให้สุขภาพผิวอ่อนแอมากขึ้น ก็อย่างที่สาวๆรู้กันนั่นแหล่ะว่าแสงแดดเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของผิวเรา

2. เซลลูไลท์พบเฉพาะในคนอ้วน

ความจริง: แม้แต่สาวผอมๆอย่างนางแบบหรือนักกีฬาก็เป็นจ้ะ อย่าคิดว่าผอมแล้วจะรอด แต่ตัวช่วยอย่างดีคือโฟโต้ช๊อบ เราก็เลยไม่เคยเห็นกันถ้าไม่มีปาปารัสซี่แอบถ่ายมาโชว์ อิอิ

3. ยารักษาโรคผิวหนังสามารถขจัดเซลลูไลท์ได้

ความจริง:ยารักษาโรคผิวหนังไม่สามารถช่วยทำให้เซลลูไลท์หายได้ มีเพียงครีมที่มีส่วนผสมของ retinoidsอาจทำให้ผิวดูกระชับมากขึ้นในระยะสั้นๆเท่านั้น

4. ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงเซลลูไลท์ได้

ความจริง:สาวๆบางคนอาจมีเซลลูไลท์เพราะเป็นกรรมพันธ์ แต่อย่าเพิ่งหมดหวังไป หากเราทานอาหารที่มีคุณภาพ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ขจัดความเครียดออกจากชีวิตซะบ้าง เท่านี้เซลลูไลท์ก็ดูจางลงได้

5. แค่ผอมลงเซลลูไลท์ก็หาย

ความจริง: เวลาน้ำหนักลดเซลลูไลท์อาจดูจางลงสำหรับบางคน แต่ไม่ไช่กับทุกคน เพราะสำหรับบางคนมันดูแย่กว่าเดิมซะอีก ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่ามันจะหายไปถ้าน้ำหนักเราลดลง




ขอแถมด้วยอาหาร 10 อย่างเพื่อต่อสู้เจ้าเซลลูไลท์จ้ะ

1.   ปลาแซลมอน

มีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่จะไปต่อสู้กับเซลไขมันในบริเวณที่เป็นเซลลูไลท์ได้ แถมโอเมก้า 3 ยังมีคุณสมบัติในการลดความอยากอาหาร ลดการติดเชื้อ และทำให้โสครงสร้างและเนื้อเยื่ออ่อนของผิวแข็งแรงอีกด้วย

2.   เมล็ดดอกทานตะวัน

เป็นแหล่งของวิตามิน อี โพแทสเซี่ยม วิตามิน บี6 สังกะสี และยังมีสารที่ต้านเนื้องอกอีกด้วย

3.   พริก

วิตามินบี 6 พริกเหล่านี้ฟื้นฟูและเสริมสร้างเนื้อเยื่อและเป็นอาวุธที่ดีในการต่อสู้กับผิวที่ไม่เรียบเนียน และยังเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง25%ซึ่งช่วยในการลดแคลลอรี่และเผาผลาญไขมันส่วนเกินต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดล้างสารพิษออกและลดไขมันในส่วนที่เป็นเซลลูไลท์ได้ด้วย

4.   แบล็กและบลูเบอร์รี่

ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ ผลเบอร์รี่สีเข้มเหล่านี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายไขมันที่ติดอยู่กับเนื้อเยื่อเซลลูไลท์ ซึ่งจะลดความเป็นก้อนเซลลูไลท์ได้

5.   น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์

ที่ใช้ผสมลงในน้ำสลัดและน้ำผลไม้ น้ำส้มสายชูนี้มีโพแทสเซียมแมกนีเซียมและแคลเซียม ซึ่งช่วยในการล้างสารพิษออกและบรรเทาการกักเก็บน้ำรอบต้นขาและท้องและช่วยลดอาการท้องอืดและเซลลูไลท์ นอกจากขจัดพิษออกจากร่างกายยังช่วยลดฮอร์โมนความเครียด ดีท็อกซ์ตับของคุณและปรับสมดุลการผลิตสโตรเจนซึ่งนำไปสู่​​การลดลงของเซลลูไลท์ นอกจากนี้แอปเปิ้ลไซเดอร์น้ำส้มสายชูยังอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ด้วย

6.   ชาเขียวและชาสมุนไพร

สารออกฤทธิ์ epigallocatechin gallate หรือ EGCG ที่อยู่ในสีเขียวดอกแดนดิเลี่ยนและขิง ช่วยเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญอาหารและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน มันยังหยุดการขยายตัวของเซลล์ไขมันที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์ นอกจากนี้คาเฟอีนจำนวนน้อยที่อยู่ชาทำงานร่วมกับ EGCG ในการล้างสารพิษออกและคายน้ำไขมันที่ช่วยลดเซลล์ไขมันที่ผลักดันให้กับผิวและช่วยลดการย่น ดังนั้นกาแฟซึ่งมีคาเฟอีนสูงขึ้นทำให้ร่างกายคายน้ำมากเกินไป เป็นผลให้มีการเก็บของเหลวและสารพิษไว้ในร่างกายซึ่งทำให้เพิ่มไขมันใต้ผิวหนัง

7.   น้ำมันมะกอก

หนึ่งในความเข้าใจผิดของผู้หญิงทุกคนที่คิดว่ามันจะทำให้อ้วน คลินิกโภชนาการทางในรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า น้ำมันมะกอกมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวการประมวลผลและโพลีฟีนที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ของคุณมีสุขภาพดีและระบบเผาผลาญทำงานอย่างสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มต่อมไทรอยด์เผาผลาญไขมันและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว ทั้งหมดนี้ช่วยลดการขยายตัวของเซลล์ไขมันและปกปิดรอยขรุขระของผิว น้ำมันมะกอกปรุงที่อุณหภูมิต่ำทานร่วมกับผักที่มีเส้นใยสูงจะให้ประโยชน์ที่มากที่สุด

8.   ช๊อกโกแล๊ตดำ (Dark Chocolate)

สาวๆที่รักช๊อคโกแลตฟังทางนี้ เราไม่จำเป็นต้องงดของหวานถึงจะได้หุ่นดีๆ เพราะโกโก้บริสุทธ์นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งจะช่วยลดไขมันในชั้นเซลลูไลท์และทำให้การทำงานของเซลล์ต่างๆดีขึ้น รวมถึงเซลล์ของโครงสร้างผิว คาเฟอีนยังช่วยขจัดไขมันใตผิวหนังอีกด้วย หม่อมป้าแนะนำให้รับทาน Dark chocolate 80% ขึ้นไป 1 ออนซ์ (28 กรัม) ต่อวันเท่านั้นนะจ๊ะ ถ้ามากกว่านั้นน้ำหนักขึ้นไม่รู้ด้วย

9.    Hummus

ซึ่งเป็นอาหารเลบานอนทำจากถั่วchick peaบด นิยมทานกับแป้งปิต้าและมะกอก ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำทำให้ร่างกายสามารถนำพลังงานไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลคือเซลล์ไขมันมีอัตราต่ำลงและเป็นการป้องกันเซลลูไลท์ไม่ให้เกิดขึ้นอีกด้วย  

10. หญ้าฝรั่น (Saffron)

จัดว่าเป็นเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลกเพราะต้องคัดสรรเฉพาะเกสรตัวเมียซึ่งจะมีเพียง 3 อันต่อดอกเท่านั้น การศึกษาวิจัยหลายชิ้นในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าเครื่องเทศชนิดนี้อาจมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง ต่อต้านสารก่อกลายพันธุ์ ฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกัน สารต้านการอักเสบ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อทานในปริมาณเพียงเล็กน้อยสามารถเพิ่มการไหลเวียนในชั้นผิวหนังซึ่งจะช่วยลดเซลลูไลท์และเสริมสร้างกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง ลดความนูนของพื้นผิวในบรืเวณที่เป็น ทำให้ผิวดูแข็งแรงและเนียนมากขึ้น ลองโรยหญ้าฝรั่นบนโวคาโด้ทานกับแผ่นโฮลเกรนและเดรสซิ่งอร่อยๆดูสิ