เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าจาก แพท-ณปภา ตันตระกูล นักแสดงชื่อดัง วัย 29 ปี กรณีมีภาพคล้ายดาราสาวยืนปะปนอยู่ในกลุ่มคนที่ทะเลาะวิวาทกัน ตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอความยาว 01.30 นาที โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “B'ben Benchawan” นำมาโพสต์ไว้ ก่อนจะปิดเฟซบุ๊กดังกล่าวไป ซึ่งภายหลัง แพท-ณปภา ได้ออกมายอมรับว่าเป็นตนเอง แต่ไม่ได้ร่วมวงทะเลาะวิวาทตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับยืนยันจะเข้าแจ้งความและฟ้องร้องคนที่ทำให้เสียชื่อเสียง

แพท-ณปภา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปแจ้งความ เนื่องจากมาทำงานที่ต่างจังหวัด กว่าจะได้กลับกรุงเทพฯ ก็วันที่ 6 ม.ค. ซึ่งในวันนั้น ยังมีงานต่อจนถึง 5 ทุ่ม ส่วนตัวคิดเหมือนกันว่ามันจะทิ้งช่วงนานไปหรือเปล่า แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะติดงานจริงๆ ตนค่อนข้างเครียด เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย ไม่แน่ใจว่ากรณีทะเลาะวิวาทแบบนี้ สามารถแจ้งความได้หรือไม่ แต่ที่ตำรวจแนะนำให้แจ้งความเพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง ตนคงต้องปรึกษาตำรวจและทนายความอีกที

“เมื่อวาน(3ม.ค.) แพทมาทำงานที่ จ.อุทัยธานี ตอนนี้อยู่ที่ จ.ลำปาง จะกลับกรุงเทพฯ วันที่ 6 ม.ค. ซึ่งต้องไปทำงานพิธีกรต่อแถวอาร์ซีเอ จนถึงประมาณ 5 ทุ่ม ยังไม่รู้ว่าจะหาเวลาช่วงไหนไปแจ้งความ แต่ว่าเมื่อวานนี้ แพทกับหลานสาวได้ไปตรวจร่างกายที่รพ.เซนต์หลุยส์มาเรียบร้อยแล้ว หลานสาวมีรอยฟกช้ำและขีดข่วนตามร่างกาย แต่ส่วนตัวไม่ได้มีรอยอะไร เพราะไม่ได้เข้าไปตบตีกับใครด้วย” ดาราสาวกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจะมีการแจ้งความและฟ้องร้องจะเอาผิดใครบ้าง แพท-ณปภา กล่าวว่า คงแจ้งความเพื่อปกป้องชื่อเสียงตนเองก่อน ส่วนกรณีแบบนี้จะเอาผิดใครได้บ้างตนไม่ทราบจริงๆ แต่ที่จะฟ้องร้องจะฟ้องคนที่โพสต์ข้อความต่อๆ กัน ทำให้ตนเสียหาย รวมถึงเฟซบุ๊กปลอมที่เปิดขึ้นมาเพื่อตั้งใจดิสเครดิตตน

ส่วนคนที่นำคลิปไปโพสต์คงไม่ได้ฟ้อง เพราะว่ากันตามตรงหลานของตนก็โพสต์ตอบโต้ทางนั้นเหมือนกัน ซึ่งหลานทำไปด้วยอารมณ์และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำหรับเรื่องที่พี่สาวของตนพาหลานไปแจ้งความตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.แล้วนั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิด คงเป็นการไปลงบันทึกประจำวันอย่างเดียวมากกว่าซึ่งพี่สาวเดินทางไปคนเดียว

ต่อข้อถามว่าหลังจากมีข่าวออกไป กระแสจากคนรอบข้างเป็นอย่างไรบ้าง ดาราสาว กล่าวว่า ถ้าเป็นคนทั่วไปที่เจอกันหรือในหมู่เพื่อนดารา ไม่มีใครเข้ามาสอบถามหรือส่งข้อความมาถามถึงเรื่องนี้เลย ส่วนหนึ่งคงเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว อย่างเมื่อวาน ตนไปทำงานที่ จ.อุทัยธานี ไม่มีใครมาถามหรือให้กำลังใจ อาจจะด้วยเป็นงานที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาถึงตัวได้ แต่ว่าในโซเชียลมีเดียคนให้กำลังใจเยอะมาก อย่างที่เห็นว่ามีการติดแฮชแท็กคำว่า #ทีมแพท เต็มไปหมด

ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ เอาจริงๆ ตนไม่รู้หรอกว่าคนคิดยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ความที่ตนเป็นคนตรงๆ รู้ว่ากำลังทำอะไรและได้ทำอะไรไปบ้าง จึงอยากต่อสู้กับความถูกต้อง ส่วนทางฝ่ายคู่กรณีนอกจากจะไม่มีการติดต่อมาแล้ว ยังคงมีการโพสต์ข้อความอยู่เพราะเขาไม่ได้มองว่าตัวเองผิด ทั้งยังบอกด้วยว่ามีหลักฐานที่จะมาสู้กับฝั่งของตน พยายามทำให้เป็นประเด็นเรื่องผู้ชายให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ฝั่งคู่กรณีบอกว่าจะเอาหลักฐานออกมานั้น เป็นเพราะที่ผ่านมาเคยมีการคุยไลน์กับผู้ชายในลักษณะชู้สาวหรือเปล่า ดาราสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ส่วนตัวมั่นใจว่าไม่เคยมีการคุยไลน์ในเชิงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการคุยเรื่องงาน เพราะผู้ชายมาขอทำงานกับตนที่บ้าน แต่ยอมรับว่าเคยมีการถ่ายรูปคู่กัน

ทั้งนี้ ดาราสาวได้เผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า จริงๆ ตนมีเรื่องที่อึดอัดอยู่ในใจ ตอนแรกคิดว่าจะรอให้ทางฝั่งโน้นออกมาพูดก่อน แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว จึงขอเล่าเรื่องของตนกับผู้ชายให้ฟังตั้งแต่ต้นว่า ผู้ชายคนนี้เป็นเด็กแว้นแถวบ้าน อายุประมาณ 20 ปี เขาเข้ามาในช่วงที่ตนโสดและกำลังแย่ เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนคนเก่ามา

ยอมรับว่าตนรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ เนื่องจากเขาดีกับครอบครัวของตนมาก ดีจนถึงขั้นที่ ‘พี่น้อง’ พี่สาวของตนบอกว่าอย่าทิ้งเขาไป หลานๆ ของตนทุกคนก็รักเขา ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ตนเสียใจมาก เท่ากับว่าเขาหลอกลวงตนและครอบครัวมาตลอด 9 เดือนเต็มๆ

ในช่วงเวลานั้นผู้ชายเทียวไปเทียวมาอยู่ที่บ้าน ตอนเช้ามารับตนไปตักบาตร พาตนไปทำงาน มาช่วยดูแลคุณแม่ของตนซึ่งป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างไม่รังเกียจ จุดนี้เป็นจุดอ่อนของตน เนื่องจากที่ผ่านมาพูดเสมอว่าจะรักคนที่รักคุณแม่และไม่รังเกียจครอบครัวตน เขาจึงเป็นคนดีในสายตาตน และคนในครอบครัวมาก ระหว่างนั้นเขาขอมาช่วยงานตนที่บ้าน และมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย ตนดูแลอย่างดี

เขามีแค่มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ เวฟ 125i ซึ่งคุณแม่ของเขาเป็นคนซื้อให้ แต่ตนไม่แคร์ เพราะเห็นในความดีที่เขาทำให้กับครอบครัว แน่นอนว่าเมื่อดีกับตนมา 8-9 เดือน ย่อมมีใจอ่อนและเริ่มรักเขามากขึ้นทุกวัน ตนยังเคยบอกด้วยแก่แล้ว แต่เขาพูดว่าไม่เป็นอะไร อายุเป็นเพียงตัวเลข พูดถึงขนาดว่าถ้าเป็นไปได้อยากเป็นพ่อของลูกตนด้วย

ตลอดเวลาที่เขาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านไม่เคยต้องออกเงินแม้แต่บาทเดียว เสื้อผ้าต่างๆ ตนเป็นคนออกให้ เพราะมองว่าเป็นของนอกกาย ถ้าเทียบกับความดีของเขา จนตอนหลังเขามาขอเป็นคนขับรถพาตนไปทำงาน เรียกว่าอยู่ด้วยกันเจอกันแทบทุกวัน จนวันหนึ่งเขาก็มาบอกกับตนว่า หมดรักแล้ว เจอกันทุกวันเริ่มเบื่อ เขาติดเพื่อน อยากมีชีวิตที่ได้ไปเที่ยวตอนกลางคืน การมาอยู่กับตนเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย

ตนแปลกใจว่าทำไมถึงหมดรักด้วยเหตุผลแค่นี้ ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมามีทะเลาะกันปกติแต่เป็นเรื่องที่คุยกันได้ ทั้งที่ก่อนหน้า 2 วันก่อนบอกเลิก เขายังมานอนตักให้ตนกดสิว ยังมาขอให้โอนเงินซื้อเสื้อให้อยู่เลย ระหว่างนั้นก็หายหน้ากันไปประมาณ 2 อาทิตย์ แต่มีคุยโทรศัพท์กันบ้าง

ยังถามเขาอีกว่าหมดรักกันจริงๆ เหรอ เขายืนยันแบบนั้น และบอกว่ากลับมาคบกับตนไม่ได้แล้ว จนมีโอกาสได้เจอกันโดยบังเอิญ จึงเรียกให้เขาขึ้นมาบนรถ ยอมรับว่าวันนั้นตนโวยวายหนักมาก เพราะอยากรู้ความจริง เลยถามไปว่าที่หมดรักกันเพราะมีคนอื่นใช่มั้ย เขาบอกว่ามีคนที่คุยมาได้ 2 อาทิตย์ แต่ยังไม่ได้รัก ตนจึงถามอีกว่าแค่ 2 อาทิตย์มีคนอื่นแล้วคืออะไร แสดงว่าต้องมีการคุยกันมาก่อน คืนนั้นเลยเคลียร์กันจนถึงเช้า ปรากฏว่าเขาเข้ามากอดแล้วขอโทษ ตนถามว่าขอโทษเรื่องอะไร เขาบอกว่าเขามีคนอื่นแล้ว คือแฟนเก่าที่คบกันมา 2 ปีแล้วเลิกกันไปปีหนึ่ง

ช่วงที่เลิกกันก็ไปคุยกับคนอื่นก่อนจะมาคุยกับตน แล้วยังบอกว่าอีกว่าตอนที่มาคบตนนั้น เขารู้สึกด้อยกว่าตนเยอะ กดดันที่ตัวเองไม่มีอะไร สุดท้ายตนเลยเอามือถือของเขามาดู จึงเห็นแช็ตกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ‘เบญ’ ซึ่งก็คือผู้หญิงเสื้อฟ้าในคลิป จากนั้น ‘นาฟ’ หลานของตนจึงโทร.ไปหาคนชื่อเบญ เพื่อถามว่าคบกับผู้ชายคนนี้จริงเหรอ ผู้หญิงคนนั้นตอบว่า “ใช่” ด้วยความหวังดีที่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะโดนผู้ชายหลอกเหมือนกัน หลานตนจึงบอกไปว่า รู้มั้ยว่าผู้ชายมาอยู่กับตนที่บ้านตั้ง 9 เดือน รู้หรือเปล่าว่าเสื้อผ้า แหวน และอะไรต่างๆ เป็นเงินของตนทั้งหมดเลย

ซึ่งผู้หญิงคนนั้นตอบกลับว่า “แล้วยังไงคะ” ตรงนี้จึงทำให้หลานเข้าใจว่าผู้หญิงกับผู้ชายรวมหัวกันมาหลอกตนและครอบครัว จึงโกรธมาก และด่ากลับไปด้วยคำหยาบ ตนเห็นท่าไม่ดี เลยเอาโทรศัพท์มาคุยเอง แล้วถามว่าคบกันจริงๆ ใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าใช่ คบกันมา 2 อาทิตย์แล้ว ก่อนหน้านี้เคยคบกันมา 2 ปี แต่เลิกกันไปปีนึง ระหว่างที่เลิกกันผู้ชายก็ทักข้อความมาหาในเฟซบุ๊กตลอด ความก็มาแตกว่าในวันที่ 19 ธ.ค. ตอนนั้นผู้ชายยังไม่ได้บอกเลิกตน แต่มาขอตนไปงานวันเกิดเพื่อน ซึ่งความจริงแล้วเป็นวันเกิดของผู้หญิงคนนี้

หลังจากผู้ชายกลับมาก็มีท่าทีเปลี่ยนไป และมาบอกกับตนว่าหมดรัก ช่วงแรกตนยังหน้าด้านยื้อ ขอให้ผู้ชายกลับมาอยู่กับตน ด้วยความที่รักมาก แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าเขาไม่กลับมาแน่ๆ จึงบอกให้เขากลับไปหาผู้หญิงคนนั้น ‘แนน’ หลานสาวอีกคนซึ่งเป็นพี่สาวของนาฟ ยังบอกเลยว่าให้เขากลับไป เพราะตอนนี้ทุกคนในบ้านรู้หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบมาว่า “ตอนนี้รู้แล้วใช่ป่ะ กลับได้หรือยัง”

“แพทไม่เสียใจที่เลือกเขา เขาอุตส่าห์อดทนทำดีมาตั้ง 8-9 เดือน แค่รู้สึกผิดหวัง เพราะคิดว่าน่าจะเดินต่อกันไปได้ แต่ที่เสียใจมาก คือ ผู้หญิงคนนั้นเอาความผิดหวังของแพทมาแฉ รูปคู่แพทกับผู้ชายที่ทุกคนเห็นกัน คือ รูปที่ผู้ชายเอาไปให้ผู้หญิงลงประจาน พร้อมเขียนข้อความว่า “รับไม่ได้ที่ผัวทิ้ง” ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายกลับเลือกที่จะเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นด้วย” แพทกล่าว

ดาราสาว เล่าต่ออีกว่า หลังจากนั้นตนได้โทรศัพท์ไปขอโทษผู้หญิงคนนั้น เรื่องที่หลานตนพูดจาไม่ดี แต่ทางนั้นไม่ยอมจบ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ ผู้หญิงคนนั้นโพสต์ข้อความว่า “กูไม่ยุ่งกับใคร แล้วใครก็อย่ามายุ่งกับกู” หลานตนที่ชื่อ ‘นาฟ’ ไปเห็นเข้า ก็ไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่าครอบครัวถูกหลอก แล้วทำไมถึงได้โพสต์แบบนี้ ด้วยความที่เป็นเด็กใจร้อน หลานตนเลยแคปข้อความนั้นเอามาโพสต์ตอบโต้อีกที ทำให้ทางฝั่งนั้นไม่พอใจ

โดยคนชื่อเบญได้ให้คนชื่อ ‘อ๊ะ’ มาคุยแทนว่าไม่ได้มีปัญหากับตน เรื่องของตนจบไปแล้ว แต่คนชื่อเบญไม่ยอมจบ ต้องการตบนาฟ ตนจึงบอกว่าจะตบได้ยังไง ครอบครัวเขาไม่ยอมหรอก ทางฝั่งนั้นก็ยืนยันว่า ไม่ได้ ต้องการตบเพราะนาฟปากดี พูดจาปีนเกลียว ตนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นมาเคลียร์กันมั้ย โดยส่งสายให้คุยกับพี่สาวซึ่งเป็นแม่ของนาฟแทน ตอนแรกพี่สาวตนนัดให้มาเคลียร์แถวบ้าน ซึ่งจะไม่มาก็ได้เพราะจะได้จบกันไป แต่ฝั่งนั้นไม่ยอม สุดท้ายฝั่งนั้นก็โทร.มานัดให้ไปเจอที่สวนหย่อมซอยอยู่ดี ซึ่งอยู่ทางฝั่งบ้านเขา ในเวลา 4 โมงเย็น ตนเห็นท่าไม่ดี เพราะกลัวจะมีเรื่อง จึงได้โทร.ไปปรึกษาและนัดแนะกับตำรวจตามที่เล่าไปเมื่อวานนี้

“ต้นเรื่องที่ทำให้เกิดการทะเลาะกันมาจากเรื่องผู้ชายคนนั้น ซึ่งหลานสาวของแพทไม่พอใจที่สุดท้ายมาจับได้ว่าผู้หญิงเสื้อฟ้ากับผู้ชายรวมหัวกันหลอกแพทและครอบครัวของเรา จริงๆ หลานแพทก็ทำไม่ถูกที่ไปด่าเขาด้วยคำหยาบ แต่ก็เข้าใจว่าหลานทำไป เพราะโกรธแทนคนในครอบครัว แต่เรื่องที่มาทะเลาะวิวาทกันไม่ได้เกี่ยวกับแพท ไม่ได้ตบตีกันเรื่องแย่งผัวหรือแย่งผู้ชาย แต่คนชื่อเบญไม่ยอมจบและต้องการเอาเรื่องหลานแพทให้ได้ วันนั้นแพทจึงมาอยู่ในเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันด้วย แต่ไม่ได้ร่วมวงตบตี แค่เอาตัวเองบังคุณแม่ของผู้หญิงเสื้อฟ้าไม่ให้เข้าไป แล้วก็ตะโกนว่า “อย่าทำ อย่ารุม” แค่นั้นเอง

สุดท้ายไม่รู้ยังไง ทางฝั่งนั้นถึงเอาคลิปไปโพสต์ รวมถึงพยายามทำให้เป็นประเด็นว่าเป็นการตบกันแย่งผู้ชาย ทั้งที่เขาก็บอกตลอดว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแพท และจิ้มมาเลยว่าจะเล่นงาน ‘นาฟ’ หลานแพทคนเดียว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำลังจะปรึกษาผู้ใหญ่ควรจะชี้แจงทีเดียวให้พี่ๆ สื่อมวลชนทราบหรือไม่ เพราะแพทก็ไม่อยากพูดหลายรอบ แต่ก็รู้สึกสบายใจที่ได้เล่าเรื่องของผู้ชายคนนี้ให้ฟัง ส่วนตัวไม่อยากปกปิด ความจริงก็คือความจริง” ดาราสาวกล่าว

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451898952