หน้ามันทำไงดี

เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก สำนวนสอนหญิงที่เป็นความจริงเหนือจริงที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือของจุกจิกไว้ใช้ประทินโฉมก็ล้วนมากสิ่งมากความ หนักไปกว่านั้นคือการแก้ปัญหาผิวพรรณที่ธรรมชาติบรรจงแปะมาให้ตั้งแต่เกิด และหากพูดถึงปัญหาผิวพรรณอย่างหน้ามันแล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นเทคนิคการแต่งหน้าที่ดูสวยงามตามกระแส แต่เชื่อเถอะว่าในสภาพอากาศบ้านเราเช่นนี้ กับเทรนด์ความมันเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรอยู่ด้วยกันเลย

 

หน้าเรามั๊นมันได้ยังไง

ปัญหาหน้ามันเกิดจากต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ ทั้งยังมีสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน เช่น

 

• กรรมพันธุ์ หากพ่อแม่เป็นคนผิวมันอยู่แล้ว แน่นอนว่าลูกก็จะมีโอกาสผิวมันได้เช่นกัน

• ฮอร์โมน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ร่างกายเกิดความตึงเครียด ความเครียดจะมีส่วนทำให้ฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ และผลิตความมันมากขึ้นได้ รวมถึงช่วงวัยเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น ระดับฮอร์โมนที่เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงอาจทำให้เกิดเป็นสิวและหน้ามันควบคู่กันได้

• การตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกายจะถูกผลิตขึ้นมากกว่าปกติ จึงทำให้สภาพผิวของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เกิดความมันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลง

• ยาคุมกำเนิด สำหรับคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดไปด้วยนั้น อาจทำให้มีผลต่อการเกิดผิวมันร่วมด้วย เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีส่วนผสมสำคัญคือฮอร์โมนเอสโตรเจน

• เครื่องสำอางบางชนิด ถือเป็นปัจจัยภายนอก ซึ่งขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของคนไข้เป็นสำคัญ เพราะสภาพผิวแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ดังนั้น หากคนไข้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน หรือเบสที่ค่อนข้างเยอะ ก็อาจเป็นการเพิ่มปัญหาหน้ามันได้อย่างไม่รู้ตัว

• สภาพอากาศ เป็นปัจจัยภายนอกอีกอย่างหนึ่ง ที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อม รวมถึงฮอร์โมน ให้เกิดการผลิตที่มากขึ้นได้ เช่น เมื่อสภาพอากาศร้อนร่างกายจะผลิตเหงื่อและน้ำมันออกมามากขึ้น เพื่อเป็นการระบายความร้อนและรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้เป็นไปตามปกติ

• ประเภทอาหารที่มีปริมาณของแป้งกับน้ำตาลเยอะ เช่น เค้ก ช็อกโกแลต คุกกี้ และอาหารที่มีรสชาติหวานชนิดต่างๆ จะทำให้ร่างกายเกิดกระบวนการไกลเคชั่น (Glycation) มาก ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตไขมันและกระตุ้นการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารหรือของหวานที่มีส่วนประกอบของแป้งกับน้ำตาลน้อย อาทิเช่น ขนมที่ทำจากช็อกโกแลต 100 เปอร์เซ็นต์ อาจส่งผลทำให้เกิดสิวได้น้อยกว่าขนมที่ทำจากแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก

 

ผลเสียโดยตรงของสาวหน้ามัน

ปัญหาทั่วไปที่เกิดจากภาวะหน้ามันคือ สิว เพราะสิวต้องอาศัยความมันบนใบหน้าในการเกิดขึ้นมา นอกจากนี้ยังพบปัญหาของรูขุมขนกว้างกว่าปกติ รวมถึงปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใสอย่างที่เคย มากไปกว่านั้น ในกรณีที่มีปัญหาผิวมันค่อนข้างมาก ก็อาจทำให้กลายเป็นลักษณะต่อมไขมันโตที่เป็นลักษณะตุ่มเนื้อเล็กๆ ขึ้นมาได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามต่อมไขมันโตดังกล่าว ก็ไม่สามารถลุกลามไปเป็นโรคร้ายในอนาคตได้แต่อย่างใด หากแต่จะสร้างความไม่มั่นใจแก่เจ้าของปัญหาเพียงเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นในความเยิ้มก็ยังมีข้อดีแอบแฝงอยู่ เนื่องจากธรรมชาติของคนเราเมื่ออายุมากขึ้นแล้ว สภาพความมันของผิวกลับผลิตสวนทางลงไป ดังนั้น คนที่มีปัญหาหน้ามันจะค่อนข้างโชคดีตรงที่ช้าต่อการมีริ้วรอย เพราะเมื่ออายุมากขึ้นผิวหน้าจะยังคงมีความชุ่มชื้นหลงเหลืออยู่ จึงทำให้ยากต่อการเกิดผิวแห้งและรอยตีนกาตามวัย

 

ผิวหน้ามันใช้อะไรให้หายดี

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่มีสภาพผิวหน้ามัน (และทุกสภาพผิว) คือ ควรอ่านฉลากข้างกล่องหรือตัวผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดทุกครั้ง ในกรณีของคนผิวมันควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil) ในปริมาณน้อย

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่ควรเลือกใช้ในรูปแบบเจล (Gel) เพราะจะช่วยลดความมันลงได้ในส่วนหนึ่ง เนื่องจากมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมากกว่าน้ำมัน นอกจากนี้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อระดับความมันบนใบหน้าได้ เช่น ยารักษาสิว (AHA, Lactic acid) เพราะคนที่มีปัญหาหน้ามันส่วนใหญ่ จะถูกเพิ่มเติมด้วยปัญหาสิวร่วมด้วย ซึ่งยารักษาสิวเป็นสิ่งที่มีผลทำให้ผิวแห้งอยู่แล้วในระดับหนึ่ง รวมถึงกลุ่มยาประเภทวิตามินเอที่อาจมีผลทำให้ระดับความมันลดลงและรูขุมขนบนใบหน้ามีขนาดที่เล็กลงได้

แต่แนะนำให้คนไข้ปรึกษาปริมาณการใช้ และความเข้มข้นที่เหมาะสมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เนื่องจากการใช้ยากลุ่มประเภทวิตามินเอ เพื่อการรักษาต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามระดับปัญหาของคนไข้ จึงควรผ่านการวิเคราะห์สภาพผิวอย่างถูกต้องก่อนใช้ยาในการรักษาทุกครั้ง

 

การรักษารูขุมขนกว้างและหลุมสิว

อาการหน้ามันยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาสิวก็พร้อมจะขึ้นมาจับจองพื้นที่บนใบหน้าอย่างแน่นอน การรักษาปัญหาผิวมันของทางการแพทย์มีอยู่ด้วยกันหลากวิธี ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์หน้าใส IPL, บำรุงผิวหน้า IONTO (ไอออนโต) หรือ การผลัดเซลล์ผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) ซึ่งเป็นวิธีลดระดับความมันบนใบหน้าได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

ส่วนหนึ่งของผลจากการรักษาจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้เป็นสำคัญ อีกทั้งการรักษาก็ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด เพราะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละคน อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์ อาจเป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุด แต่อาจทำให้ผิวเกิดรอยขุย (ระยะ Downtime) ซึ่งเป็นผลข้างเคียงตามปกติหลังการรักษาและจะจางหายไปภายใน 5-7 วัน

นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยลดขนาดรูขุมขน และเติมความชุ่มชื้นให้ใบหน้า แต่ระยะเวลาในการเห็นผลจะอยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน หลังจากนั้นคนไข้จะต้องกลับมาฉีดซ้ำ

 

ลดปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเอง

นอกจากการคัดกรองผลิตภัณฑ์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ชาวหน้ามันมักนิยมสร้างปัญหากันแบบไม่รู้ตัว คือ การล้างหน้าที่ผิดวิธี เนื่องจากหลายคนมักมีความเข้าใจแบบผิดๆ ว่า ต้องล้างหน้าให้บ่อยขึ้น เพื่อเป็นการชำระความมันเหล่านั้นให้หลุดออกไป

แต่ที่จริงแล้ววิธีเหล่านั้นกลับเป็นการกระตุ้นให้ใบหน้าเกิดความมันมากขึ้น เพราะการล้างหน้าจะทำให้ผิวแห้งขึ้นได้ในภายหลัง ส่งผลให้ผิวเกิดการผลิตความมันขึ้นมาทดแทนมากขึ้น อีกทั้งคนไข้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดเป็นประจำ ก็ควรเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทน เช่น การใส่ห่วงป้องกัน การฝังยาคุมกำเนิด (เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวอีกแบบหนึ่ง โดยใช้ยาคุมกำเนิดชนิดแท่งขนาดเล็กฝังลงไปยังบริเวณท้องแขน) หรือการเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนในปริมาณน้อย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้กระดาษซับมันก็ยังเป็นการลดความมันลงได้แบบชั่วคราว และไม่ควรซับหน้าบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและหน้ามันมากขึ้น เหมือนกรณีที่ล้างหน้าบ่อยได้เช่นกัน

 

 

พญ.ธนิยา ก่อวนิช

แพทย์ตจวิทยา (โรคผิวหนัง)

โรงพยาบาลยันฮี