ผิวที่อ่อนเยาว์ดุจวัยแรกรุ่น เป็นเสมือนความฝันของผู้หญิง ยิ่งในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อ่มได้ง่ายขึ้น และเห็นชัดเจนได้จากผิว การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือครีบำรุงผิวพรรณ อาจจะเห็นผลลัพธ์ช้าเกินไป เทคโนโลยีทางการแพทย์หรือวัตกรรมต่างๆ จึงถูกคิดค้นและนำมาใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงให้มากขึ้น โดย 1 ในนวัตกรรมความงามที่สาวๆ ยุคนี้เริ่มให้ความสนใจกันก็คือ สเต็มเซลล์

 

 

What is Stem cell

สเต็มเซลล์ คืออะไร

 

สเต็มเซลล์ หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ตัวอ่อนที่ยังไม่มีคุณสมบัติเป็นเซลล์อะไร แต่มีศักยภาพที่จะเพิ่มจำนวนตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อีก (Self Regeneration) ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยได้เซลล์เหมือนเดิมและในขณะเดียวกัน เมื่อสภาวะเหมาะสม ก็จะสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ที่มีคุณลักษณะจำเพาะเจาะจง เช่น เป็นเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ

 

 

Stem Cell Property

คุณสมบัติของสเต็มเซลล์

สเต็มเซลล์มีคุณลักษณะแตกต่างจากเซลล์ปกติของร่างกาย ดังนี้

 

 

1.สเต็มเซลล์เป็นเซลล์ที่ยังไม่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง แต่พร้อมที่จะเปลี่ยนไปเป็นเซลล์เฉพาะเมื่อมีภาวะที่เหมาะสม

 

 

2.สเต็มเซลล์สามารถแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนได้

 

 

3.สเต็มเซลล์สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นเซลล์เฉพาะได้

 

 

แบ่งตามที่มาของเซลล์ต้นกำเนิดได้ 2 ชนิด คือ

 

1.สเต็มเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน (Embryonic Stem Cell) ซึ่งได้มาจากเซลล์ที่เกิดจากการผสมของเชื้ออสุจิของผู้ชายกับไข่ของผู้หญิง เมื่อผสมกันแล้ว ก็จะมีการแบ่งตัวของเซลล์จาก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์, 2 เป็น 4, 4 เป็น 8 เพิ่มไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 5 หลังจากผสม ระยะนี้เรียกว่า บลาสโตชิสท์ (Blastocyst) จะเป็นที่มาของสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดของตัวอ่อน

 

 

2.สเต็มเซลล์ต้นกำเนิดจากเซลล์ของร่างกายที่โตเต็มวัย (Adult Stem Cell) เช่น จากเลือดในสายสะดือ รก ผิวหนัง ไขกระดูก ฟื้นฟูสุขภาพ

 

 

การรักษาด้วยสเต็มเซลล์

 

ทุกชีวิตบนโลกใบนี้มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยธรรมชาติกำหนด แต่นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่จำเป็นเสมอไป หลายเผ่าพันธุ์ สามารถอยู่อย่างอมตะ มีสิ่งมหัศจรรย์บางอย่างอยู่ในตัวของมันทำให้ไม่มีวันตาย เช่น แมงกะพรุน ไฮดรา เป็นต้น

 

 

ทฤษฎีความชรา ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า เมื่อเรามีอายุมากขึ้น สเต็มเซลล์ที่เก็บสำรองมาตั้งแต่เกิดมีปริมาณลดน้อยลง เพราะนำมาใช้ซ่อมแซมส่วนที่ซึกหรอหรือเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ในขณะเดียวกันเมื่อเราแก่ตัวลง เซลล์ต่างๆ รวมทั้งสเต็มเซลล์จะเสื่อมคุณภาพ จนถึงจุดๆ หนึ่ง ร่างกายหมดความสามารถที่จะฟื้นฟูซ่อมแซม รักษาอวัยวะต่างๆ ได้อีกต่อไป ความชรา โรคแห่งความเสื่องต่างๆ รวมทั้งมะเร็งจึงมาเยือนก่อนวัยอันควร

 

 

การใช้สเต็มเซลล์จากภายนอกเข้าไปช่วยเหลือโดยทันท่วงที จึงทำให้ร่างกายมีวัตถุดิบเข้าไปซ่อมแซมตัวเอง หยุดยั้งความชราและอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่ใช้กลับมาเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง

 

 

การนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพผิว

 

โดยเฉพาะผิวหน้า เนื่องจากใบหน้าเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยถูกปกป้องด้วยเครื่องนุ่งห่ม เพราะฉะนั้นผิวใบหน้าจะต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมมลภาวะต่างๆ เช่น แสงแดด ลม มลพิษ น้ำ หรือ สารเคมีต่างๆ ที่มนุษย์ตั้งใจทาบนใบหน้า เพื่อให้เกิดความสวยงาม สิ่งเหล่านี้จะทำให้เซลล์มีการบาดเจ็บ เสียหายเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวหน้ามีริ้วรอยและเหี่ยวก่อนวัยอันควร การใช้สเต็มเซลล์จากภายนอกเข้าไปซ่อมแซมผิวหน้าโดยตรง สเต็มเซลล์ก็จะเข้าไปซ่อมแซมทำให้ผิวหน้าดูสดใสคืนความหนุ่มสาวกลับคืนมาได้อีกครั้ง

 

 

นายแพทย์ธนวรรฒน์ โชติมา

ผู้ก่อตั้งทีเอ็นซีคลินิก