หลังการใช้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ฤทธิ์ของสเตียรอยด์จะทำให้เกิดผดผื่น เป็นสิวผดปื้นๆ เม็ดแดงๆ ขึ้นกระจายทั่วใบหน้าหรือเป็นกระจุกบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมากจุดที่ทาครีมและเกิดสิวอุดตัน

 

ที่ต้องระวัง คือ อันตรายจาก “สารสเตียรอยด์” คราวนี้แหละอาการผด ผื่น คัน ผิวบางและแพ้ง่าย จะถามหา...โดยไม่รู้ตัว ยิ่งหากใช้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดด่างขาวถาวร

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายว่า สเตียรอยด์ (Steroids) มีฤทธิ์และข้อบ่งใช้มากมาย สามารถใช้กับโรคหรือภาวะต่างๆได้หลากหลาย แต่สิ่งที่ทำให้สารกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุด กลับเป็นผลเสียที่เกิดจากการใช้อย่างไม่ถูกต้อง

ทุกวันนี้สเตียรอยด์ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อ เพราะใช้แล้วหายเร็ว โดยเฉพาะการ “รักษาสิว” ทำให้หน้าขาวใส เร็วแบบทันตาเห็น แต่ว่าความเร็วก็ไม่ได้ดีเสมอไป ยิ่งใช้ไปสเตียรอยด์จะสะสมที่ผิวหนัง หากใช้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดด่างขาวถาวร

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง ระบุชัดเจนเลยว่า “กำหนดห้ามมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ในเครื่องสำอาง

แต่ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ “สเตียรอยด์สังเคราะห์” นำมาใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาปกติได้ โดยใช้เป็นยาทาผิวหนังภายนอกเฉพาะบริเวณที่เป็นผื่น เพื่อให้สารออกฤทธิ์เฉพาะที่ ไม่ทาลงบนผิวหนังปกติ หรือไม่ทาปริมาณมาก เป็นบริเวณกว้างและต่อเนื่อง

4 ปีที่ผ่านมา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย ได้เฝ้าระวังสถานการณ์การใช้สารสเตียรอยด์ที่ผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พบว่าแนวโน้มการใช้มีมากขึ้น และในปี 58 ได้สุ่มเก็บตัวอย่างเครื่องสำอางประเภทหน้าขาว จากร้านค้าตามแหล่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 50 ตัวอย่าง พบสารสเตียรอยด์ จำนวน 3 ตัวอย่าง ซึ่งตัวอย่างที่ตรวจพบนี้เป็นครีม ทำให้หน้าขาวที่ไม่แจ้ง “ผู้ผลิต-วันที่ผลิต-หมดอายุ”

“การลักลอบใช้สารสเตียรอยด์ผสมในเครื่องสำอางยังมีอยู่ และจะสำรวจเพิ่มเติม เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากการขายตรง ทางออนไลน์และในตลาดต่างจังหวัด เพื่อให้ได้ภาพรวมของประเทศในการคุ้มครองผู้บริโภค และจะได้แจ้งอย. เพื่อเฝ้าระวัง”

ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องสำอางที่ผสมสเตียรอยด์ นับว่าอันตรายมาก หลังการใช้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ฤทธิ์ของสเตียรอยด์จะทำให้เกิดผดผื่น เป็นสิวผดปื้นๆ เม็ดแดงๆ ขึ้นกระจายทั่วใบหน้าหรือเป็นกระจุกบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมากจุดที่ทาครีมและเกิดสิวอุดตัน เอฟเฟกต์หลังหยุดใช้ ผิวจะดูเหี่ยวเร็ว เพราะสเตียรอยด์เข้าไปทำลายการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว หน้าจึงดูหมองคล้ำ ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดรอยแตก เส้นเลือดใต้ผิวหนังผิดปกติ และหน้าจะแดงอยู่ตลอดเวลา สีผิวดูจางลง

เพื่อความปลอดภัยในการซื้อเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ โดยเฉพาะครีมที่สวดสรรพคุณ หน้าขาวใส สิ่งที่ผู้ซื้อควรเช็กคือ ตรวจสอบฉลากภาษาไทยมีข้อความบังคับอย่างครบถ้วนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น “ชื่อ-ชนิด-ส่วนประกอบสำคัญ-ชื่อที่ตั้งผู้ผลิต-วันเดือนปีที่ผลิต-ปริมาณสุทธิ” และควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ด้วย

จริงๆ ก็มีทั้งประโยชน์และโทษ แต่อย่างที่ว่า...ใครๆก็อยากดูดี เรื่องนี้คงห้ามกันไม่ได้ แทนที่จะได้หน้าสวยๆ กลับกลายเป็นหน้าพัง เพียงเพราะ “อยากขาว-อยากใส"

 

 

ที่มา : www.dailynews.co.th โดย ทวีลาภ บัวทอง

http://www.thaihealth.or.th/