พ.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ เสียมศักดิ์ รองผู้กำกับการจราจรสน.พหลโยธิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่คูคต ได้เข้าเสนอแผนจัดการจราจรระหว่างการก่อสร้างเพื่อให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร โดยผู้รับเหมาได้มีการเสนอขอปิดการจราจรเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าบนถนนพหลโยธินด้านละ 1 ช่องจราจรชิดเกาะกลางถนนตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว-บริเวณซอยพหลโยธิน 22 และบริเวณซอยพหลโยธิน 25-บริเวณแยกรัชโยธิน ต่อเนื่องไปถึงแยกเกษตรฯ ทั้งด้านขาเข้าและขาออกฝั่งละ 1 ช่องจราจร โดยผู้รับเหมาจะเริ่มวางแบริเออร์ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 59-ก.พ.62 เป็นระยะเวลา 4 ปี

ดังนั้นจะทำให้เหลือช่องทางเดินรถเพียงฝั่งละ 2 ช่องจราจรเท่านั้น ทั้งนี้ทางสน.พหลโยธินจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการเปิดรีเวิร์สซิเบิลเลนส์ด้านขาออก 1 ช่องทางบริเวณซอยพหลโยธิน 24 –แยกรัชโยธินที่เคยเปิดเพื่อระบายการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น เนื่องจากมีการปิดล้อมผิวจราจรเพื่อก่อสร้างจึงส่งผลให้ไม่มีพื้นที่ ทั้งนี้คาดว่าประมาณปลายเดือน ส.ค. 59 ผู้รับเหมาจะเข้าปิดล้อมผิวจราจร 1 ช่องทางชิดเกาะกลางถนนยาวตลอดแนวถนนพหลโยธินจนถึงบริเวณคูคตเพื่อดำเนินการลงเสาตอม่อโครงสร้างรถไฟฟ้า เพราะขณะนี้ขั้นตอนการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคได้เริ่มดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

พ.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่มีการหารือกับทางผู้รับแหมาทางบช.น.จะมีการออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งทาง บช.น.ได้ประสานให้ผู้รับเหมาติดป้ายประชาสัมพันธ์เป็นระยะเพื่อแจ้งให้แก่ประชาชนทราบ อย่างไรก็ตามในการเข้าพื้นที่บริเวณเกาะกลางถนนของผู้รับเหมานั้นจะส่งผลให้ถนนพหลโยธินตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวต่อเนื่องไปถึงแยกเกษตรฯ เหลือช่องจราจรเพียงด้านละ 2 ช่องนั้นจะส่งผลกระทบทำให้การจราจรในถนนพหลโยธินติดขัดเพราะมีพื้นที่ถนนน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น

ดังนั้นทาง สน.ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสน.บางเขน สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.บางซื่อก็ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเร่งระบายการจราจรและยืนประจำจุดที่มีปัญหาเพื่อช่วยในการเร่งระบายรถได้สามารถเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นเส้นทางตัดกับถนนพหลโยธินคาดว่าจะยังไม่กระทบมากนัก.



ที่มา เดลินิวส์