สเต็ปที่ 1: ตะไบเล็บ เก็บรายละเอียด เริ่มจากการซื้อตะไบเล็บดีๆสักอัน สมัยนี้ตะไบกระดาษได้รับความนิยมมากเพราะลวดลายที่สวยงามน่าใช้ แต่รู้หรือไม่ว่า ตะไบชนิดนี้สามารถทำให้เล็บฉีกได้ ในขณะที่ตะไบที่ดีที่สุดสำหรับเล็บของคุณคือตะไบแก้ว คุณจะตะไบกลับไปกลับมาสักกี่ครั้ง ตะไบแก้วก็จะไม่ทำให้เล็บคุณเสียแต่อย่างใด และคุณควรตะไบให้เล็บเท้าของคุณเป็นสี่เหลี่ยมตรงเสมอกัน เพราะการตะไบแบบมนๆอาจจะทำให้จิกเข้าเนื้อได้เมื่อเล็บยาว

          สเต็ปที่ 2: ขัดให้เงา เอาอยู่ ขอแนะนำให้สาวๆรู้จักกับเจ้าอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Block Bufferคุณสมบัติของมันคือใช้ขัดหน้าเล็บให้เงางาม จะมีด้านที่ใช้ขัดให้ผิวหน้าเล็บเรียบสม่ำเสมอ และอีกด้านสำหรับขัดให้เล็บเงางาม ไม่ต้องกังวลว่าบล็อค บัฟเฟอร์จะทำให้หน้าเล็บเสีย เพราะมันผลิตมาจากโฟมที่มีความนิ่มและเนื้อไม่หยาบ ขัดได้ไม่ทำลายเล็บและผิวหนังรอบเล็บแน่นอนคะ อุปกรณ์นี้เหมาะมากสำหรับสาวๆที่ชอบทาเล็บเป็นประจำ เพราะจะช่วยขัดเอายาทาเล็บที่ติดอยู่ออกไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมสำหรับการทาเล็บครั้งต่อไป

          สเต็ปที่ 3: หนังหนาๆ ฆ่ามันซะ เป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงของใครหลายๆคนว่า เราควรจะขัดหนังเท้าส่วนเกินเมื่อเท้าเปียก! มากาเร็ต แดบส์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลเท้าจากอังกฤษเผยว่า การขัดเท้าต้องทำเมื่อเท้าแห้งเท่านั้น เพราะจะทำให้เราเห็นว่าส่วนไหนจำเป็นต้องขัด นอกจากนี้น้ำจะทำให้ส้นเท้าที่แตกอยู่แล้วแตกยิ่งขึ้นไปอีก อาจทำให้เจ็บและติดเชื้อได้ง่าย ส่วนเรื่องตัดหนังนั้น แนะนำว่าให้มือโปรทำดีกว่า มันเสี่ยงเกินไปที่คุณจะทำเองที่บ้าน วิธีการขัดต้องขัดเบาๆเข้าหาใต้เท้า ไม่ใช่ขัดออกเพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นสัน ไม่น่าดูเลย

          สเต็ปที่ 4: ได้เวลาสครับ รับเท้าสวย เมื่อเราจัดการกับเล็บและหนังเท้าหนาๆไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสครับเท้าให้เรียบเนียน สำหรับใครที่ไม่มีสครับติดอยู่ที่บ้าน คุณสามารถทำสครับเองได้ง่ายๆด้วยการผสมครีมอาบน้ำรวมกับเกลือแล้วนำมานวดบน เท้าที่เปียกพอประมาณ เพียงเท้านี้เท้าคุณก็จะเนียนนุ่มขึ้นอีกเยอะ

         สเต็ปที่ 5: บำรุงเท้าให้นุ่ม ชุ่มชื่นด้วยออยล์ ลืมครีมบำรุงเท้าเนื้อหนาเตอะไปได้เลย กูรูบอกว่าการใช้ออยล์บำรุงเท้านั้นดีที่สุด เพราะซึมซับสู่ผิวได้ลึกกว่าครีมอื่นๆ ทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ น้ำมันที่ดีจะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและมีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบของ เท้าด้วย ออยล์ที่กูรูแนะนำคือ ออยล์นกกระจอกเทศ แต่ถ้าแบบง่ายๆ เบบี้ออยล์ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

นิตยสาร Woman Plus

เนื้อหาโดย : นิตยสาร Woman Plus