สำหรับใครที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการทำ  โบท็อกซ์  นั้นสามารถทีจะทำให้หน้า เราเต่งตึงได้ไม่ยาก  ทำให้หน้าที่มีรอยเหนี่ยวหย่นนั้นกลับมาตึงได้โดยใช้เวลาอันสั่นก็ทำให้หน้า เราอ่อนกว่าเดิม  ซึ่งมีเหล่าดาราหลายคนได้ทำเพื่อให้หน้าดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม  อันที่จริงแล้วโบท็อกซ์นั้นเป็นสารเคมีชนิดหนึ่วใช้ในเรื่องการรักษาอาการ ต่างๆ  ที่มีความผิดปกติทางผิวหนังด้วยการฉีกเข้าไปที่ใต้ผิวหนังของผู้ที่เป็นมี ปัญหาต่างๆได้  หลังจากนั้นก็นำเอามาเพื่อใช้เป็นเครื่องลดริ้วรอยในบริเวณต่างๆ  ประโยชน์ที่ใช้ในทางการแพทย์คือ

– ความผิดปกติของผิวหนัง  ที่ต้องการแก้ไขชั่วคราวต่างๆ
– กล้ามเนื้อกระตุก สามารถที่จะใช้ได้กับกล้ามที่กระตุกทั่วร่างกาย  ไม่ว่าจะเป็ฯที่แขนและขาก็ได้
– เหงื่อออกมากเกินไป  โดยมากจนทำให้ใช้ชีวิตลำบาก
– การปวดหัวจากกล้ามเนื้อ  การปวดหัวเรื้อรัง
– ใช้เพื่อปรับระดับคิ้วทำให้คิ้วสวย
– และให้ร้วรอยบนใบหน้าลดน้องลง

สำหรับการฉีดโบท็อกซ์
                 โดยเริ่มแรกนั้นจะต้องฉีดยาชาเสียก่อนเพื่อให้หน้าเราชา  หลังจากนั้นก็จะฉีดสารเคมีชนิดนี้เข้าไปในผิวหนัง  จะมีการทาครีมบริเวณที่ผิวหนังแล้วทำการนวดผิวบ้างอย่างน้อย 1 ชั่วโมง  การฉีดโบท๊อกซ์นั้นจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผิวหนังของผู้ฉีดเข้าไปเอง
การดำเนินชีวิตหลังจากที่ได้ฉีดเข้าไปแล้วนั้นจะมีการเตือนจาแพทย์ว่าต้อง การหรือว่าห้ามอะไรบ้าง  ให้ดูแลอย่างไรให้เหมาะสม  ไม่ว่าจะไม่ให้โดยแดดจัดไป  ไม่นวดหรือว่าถูแรงๆ  เพราะว่าสารที่ฉีดเข้าไปนั้นอาจจะทำการย้ายไปบริเวณอื่นได้  ผลที่ได้อาจจะใช้เวลานานไม่กี่วัน  แต่การฉีดโบท็อกซ์นั้นก็เป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น  โดยมีอายุ 5 – 12 เดือนขึ้นอยู่กับริ้วรอยและผิวหนังของผู้ที่จะได้รับ  นอกจากนั้นอาการหลังจาก 3 เดือนจะค่อยๆ เหนี่ยวหย่นกลับมาก  หรือว่าร่างกายอาจจะมีการต่อต้านสารที่ฉีดเข้าไปได้  จึงต้องมาตรวจเพื่อติดตามผลในการรักษาเข้าไปด้วย
                 ผลข้างเคียง  แน่นอนว่าต้องมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้กับการฉีดโบท็อกซ์  หรือหากเราฉีดเข้าไปบ่อยอาจจะมีโทษก็ได้  ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้คือ

– กล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณที่ถูกฉีดเข้าไป
– มีอาการบวมและสีแดงในบริเวณที่ถูกฉีดเช่นกัน
– มีอารปวดหัวร่วมด้วย
– กล้ามเนื้อดึงมากไปอาจจะทำให้แสดงอาการทางใบหน้าไม่สะดวกอย่างเช่นการยิ้มเป็นต้น
– มีอาการปวดแขนและขาได้
– รู้สึกอ่อนเพลียหายใจลำบาก  มีปัญหาในการพูด  เสียงแหบ
– มีปัญหาเกี่ยวกับตา อย่างเช่นการมองเห็นการกระพริบตา
– มีปัญหาทางด้านหัวใจ  การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ  เจ็บหน้าอก
นอกจากนั้นยังมีปัญหาทางด้านอื่นๆ  ก่อนที่จะทำควรปรึกษากับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงก่อนตัดสินใจ