อยากมีชีวิตที่ดีและสงบสุขไม่ใช่เรื่องยาก แค่เพียงเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ ทั้ง 27 วิธี บอกเลยว่าถ้าทำได้ละก็ ชีวิตที่แสนมีความสุขน่ะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ชีวิตที่มีความสุข ในนิยามของหลาย ๆ คนก็คงจะหนีไม่พ้นการมีชีวิตที่สะดวกสบาย มีเงินทองใช้สอยได้ไม่ขาดมือ หรือแม้แต่การมีเวลาเพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนใช่ไหมคะ จริงแล้ว ๆ ที่ว่ามาเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้ แต่เชื่อว่าปัจจัยที่น่าจะสำคัญมากที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย เพราะถ้าหากเรามีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน เราก็สามารถใช้ชีวิตกันได้อย่างมีความสุขแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ
ปัจจัยอื่น ๆ อาจจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที แต่ถ้าเป็นเรื่องของสุขภาพ แค่เราเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองความสุขก็จะมาเยือนเราได้อย่างรวดเร็วแน่นอน แต่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีได้ล่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขออาสาหยิบยก 27 เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราจากเว็บไซต์ PLASH.IN มาฝากค่ะ ไม่ต้องเสียเงินเสียทองเลยสักนิด แค่เพียงมีความตั้งใจจริงก็พอแล้ว สนใจกันแล้วล่ะ งั้นไปอ่านกันเลย
งีบหลับอย่างน้อยวันละ 20 นาที
การงีบหลับไม่ใช่สัญญาณของความขี้เกียจ แต่เป็นการฟื้นฟูร่างกายและสมองให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในช่วงระหว่างวัน โดยมีการศึกษามากมายรายงานว่าการงีบหลับอย่างน้อยวันละ 20 นาที จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองดีขึ้น ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว และทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ ซึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้การงีบหลับของคุณได้ประสิทธิภาพมากที่สุดก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เพียงกำหนดเวลางีบหลับของคุณในแต่ละวัน โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ ระหว่าง 12.00-16.00 น. และไม่ควรงีบหลับเกินกว่า 40 นาที เพราะจะทำให้เมื่อคุณตื่นขึ้นแล้วจะรู้สึกไม่สดชื่นเท่าที่ควรค่ะ ที่สำคัญเมื่อตื่นแล้วคุณควรใช้เวลา 10 - 15 นาทีในการปรับตัวหลังจากตื่นนอนก่อนที่จะเริ่มทำงานต่อ เพื่อที่สมองจะได้เริ่มทำงานได้อย่างเต็มที่ไงล่ะจ๊ะ
ตื่นให้ตรงเวลา
การตื่นให้ตรงเวลาในทุก ๆ วัน นอกจากจะฝึกนิสัยความมีวินัยแล้ว การตื่นเช้าในเวลาเดิม ๆ จะช่วยทำให้คุณมีเช้าที่สดใสและกระชุ่มกระชวยมากขึ้น แถมยังช่วยทำให้คุณไม่เครียด และทำงานได้อย่างใจเย็น ไม่วอกแวก ซึ่งถ้าหากคุณอยากพบการเปลี่ยนแปลงก็ลองตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุกในเวลาเดิมทุกเช้า ติดต่อกันเป็นเวลา 30 วัน โดยที่คุณจะต้องตื่นทันทีหลังจากเสียงนาฬิกาปลุกและไม่เลื่อนเวลาปลุกออกไป แค่เพียงเท่านั้นก็จะทำให้คุณพบว่าชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายเลยล่ะ
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะในร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่า 60% ซึ่งถ้าหากร่างกายของเราขาดน้ำ ก็จะพาลทำให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายของคุณได้รับผลกระทบไปด้วย นอกจากนี้การดื่มน้ำยังส่งผลดีกับร่างกายอีกมากมายเช่น ช่วยในการลดน้ำหนัก, ลดอาการปวดตามข้อ, ช่วยขจัดของเสียต่าง ๆ ในร่างกายออกไป, ป้องกันอาการปวดหัว ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายโดยรวมเป็นได้ด้วยดี ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันก็ไม่ใช่ปริมาณที่มากมายจนไม่สามารถดื่มได้หมด แค่เพียงคุณดื่มให้ได้วันละ 6 - 8 แก้วเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง
แม้ว่าเครื่องดื่มชูกำลังจะช่วยทำให้เราตื่นได้ในเวลาที่ง่วง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าเครื่องดื่มชูกำลังนี่ล่ะตัวแสบเลย เพราะในเครื่องดื่มนั้นมีปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลสูงมากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ถึงแม้ตอนที่ดื่มเข้าไปในตอนแรกจะรู้สึกเหมือนมีแรงขึ้นมา แต่หลังจากนั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าเดิมแถมยังส่งผลกระทบอันตรายต่อร่างกาย โดยอาจทำให้เกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ หรืออาจจะทำให้เกิดอาการชักได้ ดังนั้นถ้าหากคุณกำลังรู้สึกง่วง ๆ ละก็เปลี่ยนมาดื่มเป็นชาเขียวหรือกาแฟดำจะดีกว่านะคะ
ลด ละ เลี่ยง การสูบบุหรี่
รู้หรือไม่ว่าจากผู้ที่สูบบุหรี่ทั้งหมด เกินกว่าครึ่งมักจะเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ เพราะนิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์ในบุหรี่นั้นทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและหัวใจวายได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่อีกด้วย และการสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอดได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 เท่า นี่ยังไม่รวมถึงโรคถุงลมโป่งพองอีกนะ เห็นไหมล่ะว่าบุหรี่มีโทษขนาดนี้ทางที่ดีอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่จะดีกว่า
จัดระเบียบชีวิตของตัวเองให้เรียบร้อย
ชีวิตที่เป็นระเบียบนั้นจะช่วยทำให้ความเครียดลดลงและทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะคุณจะสามารถให้ความสนใจไปกับสิ่งที่สำคัญได้โดยที่ไม่วอกแวกไปหาสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยการจัดระเบียบชีวิตตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เพียงคุณเริ่มเขียนทุกอย่างลงในสมุดบันทึก เก็บข้าวข้องให้เข้าที่ จัดบ้านให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณเป็นระเบียบมากขึ้นแล้ว
รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงในมื้อเช้า
คงจะได้ยินกันบ่อยแล้วว่ามื้อเช้าถือเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุดของวัน แต่เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่ทราบว่าการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงในมื้อเช้านั้นจะช่วยในการลดน้ำหนักได้มากเลยทีเดียว โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่าอาหารมื้อเช้าที่มีโปรตีนสูงและมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ และมีไขมันในปริมาณพอดี จะช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น แถมยังทำให้อิ่มนาน ไม่รับประทานมากไปในช่วงมื้ออื่น ๆ อีกด้วย
สวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส
แค่เพียงการสวมใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดก็สามารถช่วยให้เรามีอารมณ์ดี และความคิดดี ๆ ไปได้ตลอดทั้งวัน โดยมีการศึกษาพบว่าสีนั้นเกี่ยวข้องกับสติปัญญาและอารมณ์ของเราอย่างมาก โดยสีสันในโทนอบอุ่นอย่างสีแดง สีส้ม และสีเหลือง จะช่วยทำให้รู้สึกร่าเริงและสดใส และสีในโทนเย็นอย่างเช่น สีฟ้า ม่วง และเขียว จะช่วยให้ทำให้รู้สึกจิตใจสงบมากขึ้น ดังนั้นถ้าหากใครมีเสื้อผ้าโทนสีมืด ๆ ล่ะก็ โละไปบ้างก็ได้นะคะ หาเสื้อผ้าสีสันสดใสมาใส่กันเถอะ จะได้มีอารมณ์ที่ดีไปทั้งวันเลย
ออกกำลังกาย 20 นาที หลังจากตื่นนอน
การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกเวลา แต่ถ้าหากอยากให้ได้ผลดีที่สุด หลังจากตื่นนอนแล้วลองลุกขึ้นมาออกกำลังกายสิ เพราะการออกกำลังกายในตอนเช้าจะช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้มากขึ้น นั่นแปลว่าในช่วงระหว่างวัน ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายในตอนเช้าเป็นประจำจะช่วยทำให้คุณสามารถจัดสรรเวลาสำหรับการออกกำลังกายได้แน่นอนอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก ๆ ก็ได้ค่ะ แค่เดิน หรือวิ่งจ็อกกิ้ง หรือ ยืดกล้ามเนื้อก็ได้ เพียงแค่ทำให้เป็นประจำก็รับรองว่าได้ผลดีแน่นอน
นอนหลับให้เพียงพอ
หลายคนทุ่มเทกับงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน และการที่นอนหลับไม่เพียงพอนี่ล่ะที่เป็นสาเหตุของอารมณ์ซึมเศร้า ผิวพรรณที่ร่วงโรย แถมยังทำให้กลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืม และเป็นสาเหตุของความอ้วนอีกด้วย ฉะนั้นถ้าไม่อยากมีปัญหาสุขภาพตามมาละก็ควรจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นั่นก็คือวันละ 8 ชั่วโมงนั่นเอง
กำหนด 3 งานที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน
การกำหนดงานที่สำคัญที่สุดและต้องทำให้เสร็จในแต่ละวัน จะช่วยทำให้คุณบรรลุเป้าหมายในแต่ละวันได้ง่ายมากขึ้น เพียงแค่คุณเริ่มกำหนดเป้าหมายในตอนเช้าหรือคืนก่อนทำงาน เท่านี้ก็จะทำให้คุณสามารถที่จะโฟกัสไปยังสิ่งที่จำเป็นต้องทำในแต่ละวันได้โดยที่ไม่วอกแวกไปยังสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า แถมการกำหนดเป้าหมายแบบนี้ยังทำให้คุณสามารถทำงานได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ใช้กฎ 60/10 นาที
การทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานอาจจะเป็นสาเหตุให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง แต่ถ้าอยากให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ลองหันมาใช้กฎ 60/10 นาทีสิคะ หลักของกฎนี้ก็คือให้ความสนใจกับงานอย่างเต็มที่ 60 นาที และพักผ่อนหลังจากนั้นอีก 10 นาที โดยหากิจกรรมที่ช่วยทำให้คุณผ่อนคลายและช่วยเรียกพลังของคุณกลับมา อย่างเช่น การเดิน การพูดคุยกับเพื่อนสนิท หรือแม้แต่การดื่มชาสักถ้วย การได้พักผ่อนก็จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น และทำให้งานที่ออกมาดีมากกว่าการทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักอีก
ทำสมาธิ
การทำสมาธิ เป็นหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คนเรามีสุขภาพกายและใจที่ดีได้แบบไม่ต้องเสียเงิน โดย Mark William ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดและผู้ร่วมเขียนหนังสือ Mindfulness: A Practical Guide to Finding Peace in a Frantic World เปิดเผยว่าการทำสมาธินั้น นอกจากจะช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลายและสงบลงแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการกำหนดเป้าหมายให้กับตนเอง และลดความรู้สึกโดดเดี่ยวและอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย แถมยังช่วยทำให้เป็นคนที่ใจเย็นลงได้มากเลยล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าหากคุณอยากจะมีสุขภาพกายและใจที่ดี หมั่นทำสมาธิบ่อย ๆ เลยนะ
เสาะหามิตรที่มีความรับผิดชอบ
การมีมิตรที่ดีก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าหากมิตรคนนั้นเป็นคนที่มีความรับผิดชอบด้วยละก็ ก็จะยิ่งทำให้คุณนั้นสามารถจัดการงานต่าง ๆ หรือแม้แต่สะสางปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ก็จะยิ่งสำเร็จได้เร็วขึ้น เพราะเพื่อนที่ดีจะไม่ทิ้งให้คุณต้องรับความลำบากเพียงลำพัง แถมยังจะช่วยเป็นคู่คิดให้คุณได้อีกด้วย ฉะนั้นลองมองดูรอบตัว ๆ นะคะว่ามีใครบ้างที่เป็นเพื่อนที่ดีของคุณ ทำดีกับเขาให้มาก ๆ นะคะ
อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ทุกคนต่างมีเส้นทางชีวิตเป็นของตนเอง การนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นจะทำให้คุณรู้สึกว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาไร้ค่า แถมยังเป็นอันตรายต่อการนับถือตนเองอีกด้วย แทนที่คุณจะนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ก็หันมาทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่จะดีกว่า จะช่วยทำให้คุณถึงเป้าหมายได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ค่ะ
เลิกสนใจคนที่ทำให้ชีวิตของคุณย่ำอยู่กับที่ แล้วเริ่มต้นใหม่สักที
ชีวิตของเราสั้นเกินกว่าที่จะใช้เวลาไปกับผู้คนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่และทำให้ชีวิตของคุณย่ำอยู่กับที่ หากคุณอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง สิ่งที่ควรทำมากที่สุดก็คือเลิกสนใจคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ หรือคนที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่ไปถึงไหนไปเสีย และเปลี่ยนจากการเป็นคนที่ถูกควบคุมและครอบงำ เป็นคนที่สามารถควบคุมตนเองและทุกสิ่งรอบตัวได้ หากคุณทำได้ล่ะก็ บอกได้เลยว่าชีวิตของคุณจะดีขึ้นผิดหูผิดตาเลย
ใช้เพลงหรือเสียงรบกวนความถี่ต่ำ (White noise) ช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน
เสียงรบกวนที่มีความถี่ต่ำ หรือที่เรียกกันว่า White noise นั้นสามารถช่วยลดการเสียสมาธิได้ ซึ่งเจ้าเสียงประเภทนี้หรือแม้แต่เพลงบางประเภทจะช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นขึ้น แถมยังช่วยสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์และสมาธิของคุณให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะเสียงธรรมชาติ หรือเพลงบรรเลงเบา ๆ นี่ล่ะ จะยิ่งทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่เชื่อละก็ ลองไปหามาฟังกันดู แล้วจะรู้ว่าคุณมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นเยอะเลย
ทำงานที่ยากก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อเริ่มต้นทำงาน งานชิ้นเล็ก ๆ ที่คิดว่าง่ายสำหรับคุณมักจะเป็นงานชิ้นแรก ๆ ที่คุณเลือกทำในวันนั้น ๆ สาเหตุส่วนใหญ่ก็เพราะว่างานที่ค่อนข้างยากนั้น ทำให้คุณรู้หวั่นใจและกลัวว่าจะทำไม่เสร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนด และพาลทำให้งานอื่น ๆ ไม่เสร็จไปด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วการทำงานชิ้นเล็ก ๆ ก่อน จะทำให้คุณรู้สึกเครียดมากขึ้นเมื่อต้องทำงานชิ้นใหญ่ ดังนั้นลองเปลี่ยนมาทำงานชิ้นใหญ่กันก่อนดีกว่าค่ะ เพราะเมื่อคุณฝ่าฟันกับงานชิ้นใหญ่ไปได้แล้ว คุณจะรู้สึกสบายใจและสามารถทำงานชิ้นอื่น ๆ ได้อย่างสบายใจ
จดบันทึกทุกไอเดียและความคิดต่าง ๆ
เคยไหมคะที่เวลาเราคิดอะไรดี ๆ ออกแล้วแต่ไม่ได้จดไว้ แล้วในที่สุดก็ลืม วิธีแก้ปัญหาก็ไม่ยาก เพียงแค่เวลาที่คุณนึกอะไรดี ๆ ออกแล้วรีบจดลงในสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ ที่มีติดตัว หรือไม่ก็จดลงในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณก็ได้ คราวนี้คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าไอเดียดี ๆ เหล่านั้นจะหายไปเพราะลืมแน่นอน
เก็บเงินทอนของคุณใส่ในกระปุกออมสิน
สงสัยกันใช่ไหมละคะว่าเงินทอนเกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงตนเอง ขอบอกเลยค่ะว่า เงินทอนเพียงเล็กน้อยของคุณถ้าหากคุณเก็บสะสมไว้ในกระปุกออมสิน เมื่อคุณเปิดออก คุณจะพบว่าเงินที่อยู่ข้างในน่ะเยอะเลย การเก็บสะสมเงินทอนลงในกระปุกออมสินแทนที่จะนำมันมาใช้ เป็นวิธีเก็บสะสมเงินวิธีหนึ่งที่ได้ผล ลองหากระปุกออมสินสวย ๆ มาวางไว้และนำเงินทอนที่คุณได้รับมาในแต่ละวันหยอดใส่กระปุกดู รับรองว่าการอดออมด้วยวิธีนี้ให้ผลได้ดีเลิศเลยเชียวล่ะ
จดบันทึกค่าใช้จ่าย
การจดบันทึกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยจัดสรรการเงินของคุณให้เข้ารูปเข้ารอย การเขียนค่าใช้จ่ายของทุกสิ่งที่คุณซื้อ จะช่วยทำให้คุณรู้ว่าในแต่ละวันคุณใช้จ่ายเงินไปเท่าใดบ้าง และมีค่าใช้จ่ายใดที่ไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าค่าใช้จ่ายใดที่คุณควรจะตัดออกเพื่อประหยัดเงิน
ยกเลิกการติดตามจดหมายขยะและแคตตาล็อกสินค้าต่าง ๆ
การได้รับอีเมลหรือส่วนลดต่าง ๆ หรือแม้แต่โปรโมชั่นต่าง ๆ บ่อยจนเกินไปเป็นสาเหตุทำให้คุณใช้จ่ายเงินหมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น การจ่ายเงินน้อยลง 20 % ในการซื้อสินค้าบางอย่างไม่ได้หมายความว่าคุณจะประหยัดมากขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่อกับส่วนลดเลยดีกว่าค่ะ ไม่อย่างนั้นที่คุณคิดว่าประหยัดเงินได้อาจจะยิ่งทำให้คุณเสียเงินมากขึ้น
เตรียมอาหารไปทานเองที่ทำงาน
การเตรียมอาหารมื้อกลางวันไปจากบ้าน หรือแม้แต่การชงกาแฟจากบ้านไปแทนที่จะแวะซื้อกาแฟที่ร้านกาแฟนั้นไม่เพียงทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้น แต่สุขภาพกระเป๋าเงินของคุณก็จะดีไปด้วย เพราะการที่คุณออกไปรับประทานอาหารกลางวันข้างนอก หรือการดื่มกาแฟทุกวันนั่นล่ะจะทำให้คุณเสียเงินไปโดยใช่เหตุ หากมีเวลาตอนเช้า ลองตื่นมาชงกาแฟและเตรียมอาหารมื้อกลางวันไปทานที่ทำงานดีกว่า แล้วจะรู้ว่าแต่ละเดือนคุณประหยัดเงินได้มากเลย
หมั่นพูดให้กำลังใจตนเอง
เชื่อหรือไม่ว่าแค่เพียงคำพูดดี ๆ ที่คุณพูดเพื่อให้กำลังใจตนเอง สามารถทำให้วันแย่ ๆ ของคุณดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องหาตัวช่วยอื่น แค่เพียงพูดว่า "คุณสามารถทำได้" ทุกครั้งที่คุณรู้สึกไม่มีความมั่นใจ หรือพูดว่า "คุณทำดีที่สุดแล้ว" เมื่อคุณตั้งใจทำอะไรสักอย่างแต่ผลที่ได้กลับมาไม่ดีอย่างที่คิด เพียงแค่นี้ก็จะช่วยขจัดความรู้สึกแย่ ๆ และทำให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้นได้แล้วค่ะ ลองนำไปใช้ดูรับรองว่าคุณจะสามารถฝ่าฟันกับทุกปัญหาไปได้อย่างแน่นอน
ฟังเพลงโปรด
การฟังเพลงโปรดของคุณเองสามารถส่งผลดีกับทั้งร่างกายและจิตใจของคุณได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยเชียวล่ะ ไม่ใช่แค่เพียงทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขที่ดีต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากคุณได้เต้นและร้องเพลงไปด้วย รับรองว่าที่เครียด ๆ มาตลอดวันจะหายเป็นปลิดทิ้ง
อ่านหนังสือสารคดีทุกวัน
การอ่านคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณได้รู้สิ่งใหม่ ๆ มากขึ้นแล้วยังช่วยบริหารสมองในเรื่องของความคิดอีกด้วย ซึ่งจะช่วยชะลอความแก่ชราลงทางด้านจิตใจและความคิดอีกด้วย แค่เพียงใช้เวลาไม่กี่นาทีต่อวันอ่านหนังสือสารคดีเพียง 10 % ของแต่ละเล่ม ก็จะช่วยทำให้คุณได้เปิดโลกกว้างโดยไม่ต้องลุกจากที่นั่งไปไหน
เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทุกวัน
การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ มีประโยชน์มากกว่าแค่เพียงทำให้คุณรู้คำศัพท์ต่าง ๆ มากขึ้น แต่ยังช่วยพัฒนาความสามารถในการสื่อสารให้คุณ ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องอยู่ในสังคม แถมยังช่วยบริหารสมองให้คุณได้อีกด้วย แค่เพียงคุณเปิดพจนานุกรมแล้วอ่านคำศัพท์ใหม่ ๆ วันละคำ หรือสมัครสมาชิกอีเมลเพื่อรับคำศัพท์ใหม่ ๆ ในทุกวันผ่านทางอีเมล แล้วคุณจะรู้ว่า การได้รู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทำให้คุณพบกับโอกาสดี ๆ มากขึ้นค่ะ
วิธีที่นำเสนอไป ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหม แค่เพียงเราเริ่มต้นทำเท่านั้นเองก็จะพบกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่มากมายจนคุณคาดไม่ถึง แต่เปลี่ยนแปลงแล้วก็ต้องทำให้สม่ำเสมอนะ ไม่อย่างนั้นถ้าทำบ้างไม่ทำบ้าง ต่อให้เราอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองขนาดไหนก็คงไม่มีทางสำเร็จอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ