ที่มา : MGR Online
"หมอๆ เมื่อเช้าเฮียตื่นขึ้นมา...เวียนหัวบ้านหมุนติ้วเลย...นึกว่ามาออกรอบไม่ได้แล้ว...ดีว่าหายทันนะ...นี่ยังงงๆ อยู่เลย...สั่งยาให้ด้วยนะหมอ!"
"โอเคครับ...ถ้างั้นวันนี้เราตีเบาๆ เดี๋ยวสนามหมุน!...ได้กี่หลุมก็เอาเท่านั้นนะครับ"
หลายท่านคงมีประสบการณ์ "บ้านหมุน" มาบ้างแล้วและคงจดจำได้ไม่ลืมถึงวันที่ลุกขึ้นจากที่นั่งหรือเตียงนอนตามปกติ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวกลับไม่ปกติเหมือนบ้านทั้งหลังหรือโลกทั้งใบหมุนติ้วไปมาไม่ยอมหยุดจนคุณต้องยอมจำนนต่ออาการนี้ โดยการทรุดตัวลงนอนแต่โดยดี แต่อาการนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยคุณไปง่ายๆ ยังคงจับคุณเหวี่ยงไปมาจนถึงขั้นอาเจียนออกมาจนอ่อนเพลียหมดแรงอาการเช่นนี้มีสาเหตุมาจากอะไรบ้างและเราจะรับมือกับมันอย่างไร?...หมุนตามมาเลยครับ!
โรคเวียนศีรษะจนบ้านหมุนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ที่รุนแรงน้อย ซึ่งพบได้บ่อยจนถึงรุนแรงมาก ตามปกติการทรงตัวและการก้าวเดินของคนเราต้องอาศัยอวัยวะหลายส่วนที่ทำงานประสานสอดคล้องกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเริ่มตั้งแต่ระบบการรับภาพอวัยวะการทรงตัวในหูชั้นในระบบประสาทรับสัมผัสต่างๆ ที่จะให้ข้อมูลกับสมองส่วนหลังหรือสมองน้อย ว่าในขณะนั้นร่างกายเราดำรงอยู่ในตำแหน่งไหนเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งหากมีความผิดปกติใดๆ ก็ตามเกิดขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะส่งผลต่อการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของร่างกายทันที ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรงจนบ้านหมุนขึ้นมาได้
ตัวอย่างโรคที่อาจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะจนบ้านหมุนที่พบได้บ่อย
1.โรคเวียนศีรษะขณะเปลี่ยนท่าทาง เป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้บ่อยที่สุดเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นในจึงพบมากในผู้สุงอายุอาการเฉพาะของโรคนี้คืออาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่เกิดขึ้นได้ในทันทีทันใดในขณะที่ศีรษะเคลื่อนไหว เช่น ระหว่างกำลังล้มตัวลงนอนหรือลุกจากที่นอน เงยหน้า กับก้มลงหยิบของ เป็นต้น อาการมักจะเป็นระยะสั้นๆ เป็นช่วงวินาทีที่ขยับศีรษะแล้วอาการก็จะค่อยๆ หายไป
2.โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระดับน้ำในหูชั้นใน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนอย่างรุนแรงร่วมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาการนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมง ซึ่งในระหว่างที่เกิดอาการผู้ป่วยควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังอาจมีอาการได้ยินลดลงและมีเสียงดังในหูได้ด้วย
ซึ่งเมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนควรปฎิบัติดังนี้
1.หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะในระหว่างเกิดอาการเช่น การหมุนศีรษะเร็วๆ การเปลี่ยนแปลงท่าทางอิริยาบถอย่างรวดเร็ว
2.หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด การดื่มสุรา สูบบุหรี่
3.ไม่ควรอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น ขับขี่ยานพาหนะ อยู่ในที่สูง
ที่มา : http://www.thaihealth.or.th/