ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

http://www.thaihealth.or.th/

 

ติ่งเนื้อบริเวณปากทวารหนัก อีกอาการหนึ่งที่พบบ่อย ที่คนไข้มักจะมีความวิตกกังวลจนต้องมาพบแพทย์ ยิ่งถ้ามีอาการถ่ายเป็นเลือดจะยิ่งวิตกหนักเข้าไปใหญ่ กลัวว่าจะเป็นมะเร็งมากกว่าอย่างอื่น

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักทวารหนักกันก่อน ทวารหนักตามหลักกายวิภาคไม่ได้มีแค่รูทวารภายนอกที่เราเห็น แต่ครอบคลุมเข้าไปภายในรูทวารสูงขึ้นไปจากปากทวารหนักอีก 3-5 เซนติเมตร มีความสำคัญเนื่องจากมีหน้าที่เกี่ยวกับการกลั้นอุจจาระ เพราะมีกล้ามเนื้อหูรูด 2 ชนิดคือกล้ามเนื้อหูรูดภายในและกล้ามเนื้อหูรูดภายนอก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหูรูดภายนอกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมตามที่สมองสั่งการ อาการติ่งเนื้อที่บริเวณปากทวารหนักอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ติ่งเนื้อธรรมดา หูด ริดสีดวงทวารหนัก แผลฉีกขาดเรื้อรัง รวมถึงมะเร็ง ซึ่งแพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยแยกโรคได้ไม่ยาก ด้วยการดูภายนอก การใช้นิ้วคลำในรูทวารหนัก และการส่องกล้องพรอคโตสโคปเพื่อดูหน้าตาเยื่อบุทวารหนัก ถ้าไม่แน่ใจก็ตัดชิ้นเนื้อบริเวณที่สงสัยมาตรวจกันไป

สาเหตุของโรคมะเร็งทวารหนักยังไม่ทราบชัดเจน แต่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ มีการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีหรือไวรัสหูด มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีคู่นอนหลายคน เคยเป็นมะเร็งปากมดลูกมาก่อน สูบบุหรี่ เคยได้รับยากดภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ มีแผลเรื้อรังบริเวณปากทวารหนัก เช่น ฝีคัณฑสูตร อาการที่พบได้แก่ มีก้อนเนื้อผิดปกติ มีแผลหรืออาการคันเรื้อรังบริเวณปากทวารหนัก มีเลือดหรือน้ำเหลืองออกจากทวารหนัก มีอาการปวดเจ็บภายในรูทวารหรือปากทวารหนัก ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือด ถ้าเป็นมากจนมีการกระจายแล้ว ก็มักคลำต่อมน้ำเหลืองโตได้บริเวณขาหนีบข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง

ส่วนการรักษานั้นก็ขึ้นกับระยะของโรค ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นอาการยังไม่มากยังเป็นเฉพาะที่ ก็สามารถผ่าตัดเอาเฉพาะเนื้องอกออก ยังเก็บทวารหนักไว้ได้ แต่ถ้าเป็นมากขึ้นก็อาจพิจารณาการฉายแสงควบคู่กับการให้ยาเคมีบำบัดดูก่อน มะเร็งอาจจะยุบลงได้โดยไม่ต้องตัดทวารหนักออกทั้งหมด แต่ถ้าไม่ตอบสนองหรือเป็นมากมีการลุกลามไปเล่นงานกล้ามเนื้อหูรูด แต่ยังไม่มีการกระจายไปอวัยวะห่างไกล ก็ต้องตัดเอาทวารหนักออกทั้งหมด แล้วไปทำทวารใหม่โดยการเอาลำไส้ใหญ่ส่วนปลายไปเปิดที่หน้าท้องแทน

ถึงแม้ว่าโรคมะเร็งทวารหนักจะพบได้ไม่ค่อยบ่อย แค่ 1-2 เปอร์เซ็นต์ของมะเร็งระบบทางเดินอาหารทั้งหมด แต่ใครที่มีอาการผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ไม่แน่ใจก็ไปให้แพทย์ตรวจทวารหนักเพื่อความสบายใจ ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมายหรอกครับ...ขอบอก

แต่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ มีการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีหรือไวรัสหูด มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีคู่นอนหลายคน เคยเป็นมะเร็งปากมดลูกมาก่อน สูบบุหรี่ เคยได้รับยากดภูมิคุ้มกันในผู้ป์วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ มีแผลเรื้อรังบริเวณปากทวารหนัก