แม่ตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้ เพราะช่วยลดอาการปวดหลัง เป็นตะคริวเนื่องจากเลือดไม่ไหลเวียนได้ แต่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์

 

 

รศ.นพ.กำธร พฤกษนานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลไว้ว่า โดยปกติแล้วคนท้องที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์ลูกแฝด ซึ่งมดลูกจะขยายมากกว่าคนทั่วไป อาจกระทบกระเทือนได้มากกว่า แพทย์ก็จะแนะนำให้ออกกำลังกายอยู่แล้ว เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยลดอาการปวดหลัง เป็นตะคริวเนื่องจากเลือดไม่ไหลเวียนได้ ทั้งยังช่วยคลายอาการปวดศีรษะ หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี แต่ต้องไม่มากจนเกินไป ควรให้หัวใจเต้นประมาณ 120-140 ครั้งต่อนาที ถือว่ากำลังดี และต้องเลือกประเภทกีฬาให้ดีด้วย โดยควรปรึกษากับคุณหมอที่ฝากครรภ์ในเรื่องนี้เป็นเฉพาะราย

สำหรับประเภทกีฬาที่แนะนำนั้น รศ.นพ.กำธร เผยว่า คนท้องควรหลีกเลี่ยงความกดดันบริเวณช่องท้อง และหลีกเลี่ยงการกระทบช่วงท้อง ไม่ให้กระทบกระเทือนรุนแรง ในช่วง 1-5 เดือนแรกนั้น คุณแม่ทั่วไปอาจออกกำลังกายคล้ายคลึงกับที่เคยออกกำลังกาย แต่เมื่ออายุครรภ์ 5 เดือนแล้ว หน้าท้องขยายมากขึ้นก็ไม่ควรออกกำลังกายรุนแรงต่อบริเวณช่วงท้อง โดยประเภทกีฬาที่เล่นได้ เช่น เดิน แอโรบิก ยืดกล้ามเนื้อ หรือว่ายน้ำ กีฬาในน้ำต่างๆ ก็พอได้ ส่วนกีฬาที่กระแทกแรงอย่าง ขี้ม้า ยกน้ำหนัก ที 25 ไม่เหมาะกับการออกกำลังกาย หรือดำน้ำก็ไม่ควรเช่นกัน

แนะนำให้ออกกำลังกายวันเว้นวัน แต่หากคุณแม่รุ่นใหม่บางคนออกกำลังกายทุกวันและรู้ข้อจำกัดของตัวเองก็อาจออกกำลังมากกว่านั้นได้ แต่ทั้งนี้ความเชื่อที่ว่าออกกำลังกายมากจะทำให้คลอดง่ายนั้นไม่เป็นความจริง

ที่สำคัญคือหลังจากออกกำลังกายแล้วควรดื่มน้ำตาม ไม่ว่าน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ เพื่อชดเชยแร่ธาตุที่ขาดหายไป หลังออกกำลังกายก็ไม่ควรซาวน่าต่อ เนื่องจากอุณหภูมิสูงเกินไป รวมทั้งเลือกช่วงเวลาออกกำลังกายให้เหมาะสม เป็นช่วงสบายๆ เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ควรรัดเกินไป ให้ใส่เสื้อผ้าที่ดูสบาย ไม่กดดันบริเวณหน้าท้อง ปิดท้ายด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หากไม่แพ้ก็ดื่มน้ำเพิ่มแคลเซียมได้เพื่อคุณลูก

 

 

ที่มา : www.matichon.co.th

http://www.thaihealth.or.th/