1. รุ่น MEXICO 66 (รุ่นเม็กซิโก 66) ถือว่าเป็นรองเท้ารุ่นแจ้งเกิดของแบรนด์โอนิซึกะ ไทเกอร์ เลยทีเดียว ผลิตในปี 1966 เป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ใช้ลาย Tiger Stripes ตกแต่งที่ด้านข้างของรองเท้า ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้ได้ใช้ในการแข่งโอลิมปิกเกมส์ที่ประเทศเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ ในปี 1968 จึงกลายเป็นที่มาของชื่อรองเท้ารุ่นนี้ นอกจากนี้ MEXICO 66 ยังรองเท้ารุ่นแรกที่ใช้ลายที่มีชื่อเสียง รุ่นนี้เป็นรุ่นคลาสสิก และได้รับความนิยมมากที่สุด

2. รุ่น SERRANO (รุ่นเซอร์ราโน) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรองเท้าที่ใช้ในการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่ในช่วงปี 1970 ซึ่งเป็นที่รู้กันในยุคสมัยนั้นๆ เลยว่า รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว

3. รุ่น CALIFORNIA 78 (รุ่นแคลิฟอร์เนีย 78) ในช่วงท้ายๆ ของยุค 70 นั้น เทรนด์การวิ่งจ๊อกกิ้งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา และระบาดไปทั่วโลก รองเท้ารุ่นนี้จึงถูกผลิตออกมาเพื่อตอบรับกระแสการวิ่งออกกำลังกายในยุคนั้น รองเท้าถูกออกแบบให้มีความโค้งมนช่วงปลายเท้า และส้นเท้า เพื่อช่วยให้การก้าวไปข้างหน้าง่ายและมีแรงส่งเพิ่มขึ้น

4. รุ่น FENCING (รุ่นเฟนซิ่ง) รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผลิต และใช้ในการแข่งขันกีฬาฟันดาบ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายหรือความสบายในการสวมใส่ ความคล่องตัว ถูกออกแบบมาเพื่อกีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะ

5. รุ่น COLORADO EIGHTY-FIVE (รุ่นโคโลราโด เอตี้ไฟว์) รองเท้าที่ผลิตขึ้นในยุค 80 มาเพื่อใช้ในการเล่นกีฬากลางแจ้ง ปัจจุบันรุ่นนี้ถูกหยิบขึ้นมาผลิต และปรับใหม่เพื่อใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ด้วยวัสดุ และสีที่ใหม่และเข้ากับยุคสมัย เพิ่มความยาวของด้านข้างไปจนถึงปลายเท้าด้านหน้า โดยเมื่อสวมใส่แล้วจะรู้สึกนุ่มสบาย เพิ่มความรู้สึกกระฉับกระเฉง

6. รุ่น FABRE DC-L (รุ่นเฟเบอร์ ดีซี-แอล) แรงบันดาลใจของรองเท้ารุ่นนี้มาจากรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นแรกสุด ที่ถูกผลิตขึ้นในปี 1978 ซึ่งถูกนำกลับมาผลิตใหม่โดยการผสมผสานแฟชั่นในยุคปัจจุบันให้เข้ากับดีไซน์ดั้งเดิม ซึ่งทำให้ได้รองเท้าที่มีส่วนผสมที่ลงตัวอย่างที่สุด โดยใช้ยาง AHAR ซึ่งมีความคงทนและสวยงาม โดยชื่อ DC ที่อยู่ในชื่อรุ่น ได้มาจากตัวอักษรย่อของนักบาสเกตบอลที่ใส่รองเท่ารุ่นนี้ ในยุคนั้น

7. รุ่น MACHU RACER (รุ่นมาชู เรเซอร์) แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าวิ่ง ซึ่งฟังก์ชั่นที่พิเศษคือการที่ด้านข้างของรองเท้ายืดยาวไปจนถึงหน้าเท้า ซึ่งจะทำให้การสวมใส่สบาย รูปลักษณ์ที่เรียบง่าย ผลิตจากวัสดุไนลอน ทำให้มีน้ำหนักเบา จึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนที่ชอบความเรียบหรู

8. รุ่น TIGER CORSAIR (รุ่นไทเกอร์ คอร์แซร์) เริ่มต้นจากรองเท้าที่ใช้ในการวิ่งจ๊อกกิ้งในยุค 70 โดยการเพิ่มความนุ่มเพื่อรองรับแรงกระแทกในขณะวิ่ง โดยส่วนกลางของรองเท้าขยายขนาดขึ้น ส้นที่หนาขึ้น เพื่อทำให้การรองรับน้ำหนักที่ดีมากขึ้น โดยรุ่นใหม่ที่ผลิตออกมานั้น เน้นความทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการรองรับน้ำหนักและความนุ่มสบายในแบบดั้งเดิม

9. รุ่น ULTIMATE 81 (รุ่นอัลติเมท 81) รองเท้าวิ่งซึ่งเกิดขึ้นในปี 1981 โดยเน้นที่ความมั่นคงของส้นเท้าและน้ำหนักที่เบาของรองเท้า ดีไซน์พื้นรองเท้าสองสีตัดกัน และส้นรองเท้ารับแรงกระแทก และมีวัสดุที่ช่วยระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม

10. รุ่น X-CALIBER (รุ่นเอ็กซ์-คาลิเบอร์) รองเท้าวิ่งซึ่งผลิตขึ้นมาในปี 1982 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยรองเท้ารุ่นนี้มีการออกแบบช่วงฝ่าเท้าส่วนกลางเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้การรองรับน้ำหนักลงบนฝ่าเท้าได้ดีขึ้น และช่วงหัวรองเท้าที่ป้องกันการบาดเจ็บของนิ้วเท้าได้ ทำให้การวิ่งมีความสบายมากขึ้น

นอกจากรองเท้า 10 รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลแล้ว Onitsuka Tiger ยังได้นำเสนอรองเท้ารุ่น “Nippon Made Collection” ผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น แฮนด์เมดทุกขั้นตอน ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม การตัดเย็บที่ประณีต การย้อมสี การจัดรูปทรง การบิดแห้งจนเกิดเป็นลายริ้วแตกบนรองเท้าที่ไม่ซ้ำกันสักคู่เลย

**รู้ไว้ใช่ว่า**

ต้นปี 2559 โอนิซึกะ ไทเกอร์ เตรียมเปิดตัวรองเท้ารุ่นล่าสุด เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 75 ปีของบรู๊ซ ลี (BRUCE LEE) ซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนที่โด่งดังระดับฮอลลีวูดผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้แบบจีน (กังฟู) โดย Onitsuka Tiger ได้ร่วมมือกับ ร้าน BAIT รังสรรค์รองเท้า โอนิซึกะ ไทเกอร์ จำนวน 2 รุ่น ได้แก่

Onitsuka Tiger Corsair รุ่นพิเศษ ชื่อรุ่น “JEET KUNE DO” รองเท้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรัชญาและเทคนิคแห่งศิลปะการป้องกันตัวที่เป็นตำนานของนักต่อสู้และดาราฮอลลีวูดชื่อดังคนนี้ “บรู๊ซ ลี” เพื่อเป็นเกียรติและเป็นการให้ความเคารพแก่เอกลักษณ์ของชุดที่บรู๊ซลีสวมใส่เป็นประจำ รองเท้า Corsair รุ่นนี้ทำมาจากหนังกลับสีดำ ผสมผสานไปอย่างลงตัวด้วยสีน้ำเงินจากหนังแท้ รูปทรงที่ออกแบบมาแสดงถึงความคล่องแคล่วว่องไวอย่างแท้จริงเปรียบเสมือนรองเท้าที่ใช้ในศิลปะกังฟู ลายมังกรที่สลักอยู่ด้านข้างของรองเท้าสะท้อนถึงจิตวิญญาณ ชื่อเสียง และปีที่กำเนิดของบรู๊ซ ลี อีกทั้งยังมีการสลักสัญลักษณ์รูปนักกังฟู (Kickman) และชื่อไว้เป็นสีทองที่ลิ้นรองเท้าด้านหลังสุด และข้างในพื้นรองเท้ายังมีโลโก้การเฉลิมฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิด 75 ปีของบรู๊ซลีอีกด้วย

Onitsuka Tiger รุ่น Colorado 85 แรงบันดาลใจของรองเท้ารุ่นนี้มาจากภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่บรู๊ซ ลีนำแสดง โดยใช้สีเหลืองและสีดำเป็นสีหลักบนรองเท้ารุ่นพิเศษนี้ สีเหลืองส่วนของรองเท้าได้มาจากหนังนูบัคโดยพาดลายของ Tiger Stripes สีดำด้านข้างรองเท้า ซึ่งการนำสีเหลืองดำมาใช้ถือเป็นการให้เกียรติต่อชุดที่บรู๊ซลีใส่เสมอๆ โดยยังคงมีสัญลักษณ์ของนักกังฟูบนหลังรองเท้าทั้งสองข้าง และอีกทั้งสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปีด้านในพื้นรองเท้าอีกด้วย.

ที่มา  thairath.co.th