พูดว่า "ผิวขาว" เชื่อเลยค่ะว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายนั้นคงต้องถึงกับชะงักงันในคำพูดนี้กันเลยทีเดียว และเมื่อเราพูดว่าเรามีวิธีทำให้ผิวขาวขึ้นได้ด้วยละคะ คุณผู้หญิงทั้งหลายกำลังจะนึกถึงอะไรกันบ้างเอ่ย… แน่นอนคะว่าผู้หญิงไทยอย่างเราหรือใครก็อยากมีผิวขาวด้วยกันทั้งนั้นและวันนี้เราก็มีหลากหลายวิธีในการทำผิวของคุณนั้นขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแบบไม่อันตรายมาฝากกันด้วยค่ะ
หากพูดถึงวิธีทำผิวขาวผู้หญิงหลายคนอาจหูผึ่งและยิ่งเมื่อได้รู้ว่ามีวิธีที่จะสามารถทำให้คล้ำ ๆ ของคุณทำให้กลาย เป็นผิวขาวใสขึ้นได้ คุณผู้หญิงหลายคนคงจะไม่ปฏิเสธถึงเคล็ดลับ 27 วิธีทำให้ผิวขาว ที่เรากำลังจะบอกคุณ ๆ ใช่ไหม
วิธีทําให้ผิวขาว
- วิธีขัดผิว (Exfoliating) หมายถึง การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้ารากศัพท์ของมันมาจากคำว่า “foliage” ซึ่งแปลว่าใบพืช เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า อิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล่างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอก เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอกทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายในและป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ผิว หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าอยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้วเซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวาและดูเป็นสะเก็ด การขัดหน้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขัดผิวก็ได้แก่ ฟองน้ำขัดรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใยบวบหรือครีม เช่น เอเอชเอ แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ขัดผิวได้ การขัดผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื่นและใสกระจ่าง
- ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวด้วยวิธีรุนแรง และหากขัดมากเกินไปก็อาจรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด หรือปัญหาอื่น ๆ ได้ง่าย
- ถ้าไม่กำจัดออกไปผิวจะเกิดการอุดตันและหายใจไม่ได้ ผลก็คือผิวจะหม่นหมองดูแล้วมีความมันหรือบางทีอาจทำให้เกิดสิวอุดตัน รวมทั้งทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตใต้ผิวไม่ดีทำให้ของเสียเกิดการสะสมตัว
- ถ้าต้องการขัดผิวหน้าก็ควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าใครมีเซลลูไลท์แนะนำให้ขัดผิวบริเวณส่วนนั้นทุกวัน โดยใช้ถุงมือผ้าที่ใช้สำหรับอาบน้ำนวดขัดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกำจัดของเสียออกทางระบบน้ำเหลือง
- วิธีขัดผิวที่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องมีคือ ฟองน้ำสำหรับขัดผิวกาย ถุงมือผ้า อาบน้ำหรือใยบวบและผลิตภัณฑ์ขัดผิว เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าไม่แน่ใจลองปรึกษาคนขาย
- เริ่มต้นที่ทำผิวเปียก นำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำ หรือถุงมือ แล้วทาลงบนผิวเบา ๆ นวดผลิตภัณฑ์บนผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบา ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนใช้น้ำล้างออกให้สะอาดซับให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวยังชื้น
- ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวควรเลือกที่เป็นครีมหรือเจล เนื้อครีมควรมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคือง หรือเป็นแผลถลอกขณะที่ขัดนวดผิวบริเวณนั้นควรมีความชื้นพอหมาดแล้วล้างออกด้วยน้ำมาก ๆ
- ใยบวบ หรือใยขัดธรรมชาติเป็นอุปกรณ์ขัดผิวที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าออกแรงขัดมากเกินไปอาจทำให้แสบผิวได้เพราะใยเหล่านี้มีลักษณะสากและหยาบ เวลาขัดจึงควรขัดเบา ๆ ไปทั่วร่างกายขณะอาบน้ำและเมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง
- การใช้ผ้าสำหรับถูตัว หรือฟองน้ำถูตัวเวลาอาบน้ำก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของการขัดผิวโดยใช้ร่วมกับสบู่หรือเจลอาบน้ำก็ได้
- เลียนแบบจากสปาชั้นนำ โดยการใส่น้ำให้เต็มอ่างเติมเกลือเม็ดลงไปและเวลาที่ลงไปแช่ตัวอยู่ในอ่างให้ใช้เกลือ 1 กำมือ ขัดไปมาเบา ๆ ให้ทั่วตัวและล้างตัวด้วยน้ำสะอาด
- แปรงผิวสามารถใช้ได้ดี โดยขัดเบา ๆ บนผิวที่แห้งก่อนอาบน้ำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไปหรือจะใช้ในขณะอาบน้ำร่วมกับสบู่หรือเจลอาบน้ำก็ได้
- การปรนนิบัติผิวให้นุ่มนวลขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้นควรเริ่มด้วยการใช้น้ำมันนวดผิวก่อนอาบน้ำ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการขัดผิว เพื่อช่วยปรนนิบัติผิวสะอาดหมดจด สวยเนียนสดใสไปอีกนาน ๆ
- เราสามารถทำครีมขัดผิวใช้เอง โดยการใช้เกลือเม็ดเล็ก ๆ ผสมกับน้ำมันทาผิว (Baby Oil) หรือน้ำมันมะกอกทาทั่วตัวทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที นวดให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- สครับสำเร็จรูปมักมีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือมีบีด (bead) ซึ่งอาจทำจากเกลือ น้ำตาล อัลมอนด์ ฯลฯ ช่วยในการขัดผิว มีน้ำมันช่วยหล่อลื่นมีกลิ่นหอมอีกทั้งมีส่วนประกอบในการบำรุงผิวอีกหลายชนิด
- เราสามารถทำสครับใช้เองง่าย ๆ ด้วย การใช้ผักผลไม้ชนิดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในตัวเดียว คือมีผิวสัมผัสที่ให้ความหยาบเล็กน้อยแต่ต้องไม่ถึงกับให้ผิวระคายเคืองมีน้ำช่วยหล่อลื่นและมีวิตามินตรงกับความต้องการ
- มะขามเปียก สับปะรด มีเส้นใยช่วยขจัดขี้ไคลมีความเป็นกรดช่วยทำความสะอาดผิวทำให้ผิวขาวใสมีวิตามินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์สูง มะละกอมีเอนไซม์อ่อน ๆ ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ววิตามินสูงแต่เนื้อมีความละเอียดมาก มะนาวเป็นกรดเหมาะใช้กับผิวส่วนที่หยาบกร้าน เช่น ข้อศอก ส้นเท้านุ่มขึ้น แตงกวาช่วยให้ผิวสดชื่น มะพร้าวขูดมีน้ำมันช่วยบำรุงผิว แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมากต้องระวังลองใช้ส้มเช้งมีคุณสมบัติ คล้ายสองชนิดแรกแต่ไม่เป็นกรดมาก
- ถ้าคุณเลือกส่วนผสมหลักที่มีความพร้อมในตัวเดียว เช่น มะขามเปียกก็สามารถนำมาสครับได้เลย แต่ถ้าเลือกมะละกอก็ควรหาสิ่งที่เป็นบีดเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะบีดช่วยเพิ่มความสากในสครับทำให้สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่ายขึ้น
- เพื่อความปลอดภัยควรเลือกสิ่งที่อยู่ในครัวเรือนและมีโอกาสแพ้น้อยที่สุด เช่น เกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว ข้าวสารบดละเอียดช่วยให้ผิวขาว น้ำตาลทรายมีทั้งความสากและความหนืดอยู่ในตัวเอง งาเนื้อไม่หยาบเกินไป มีน้ำมันอยู่ในตัวช่วยลดความระคายเคืองและกาแฟกระตุ้นให้ร่างกายขับสารพิษ สิ่งที่ควรระวังคือบีดบางชนิดมีเหลี่ยมคมจึงต้องนำมาบดให้ละเอียดก่อนนอกจากนั้นอาจเพิ่มน้ำมันลงไปเพื่อช่วยลดการเสียดสี
- ถ้าคุณมีผิวมัน ใช้มะขามเปียกหรือสับปะรดซึ่งมีความเป็นกรดช่วยขจัดความมันผสมกับเกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว เติมโยเกิร์ตช่วยบำรุงผิวก็ได้
- ถ้าคุณมีผิวแห้ง ใช้ส้มเช้งเป็นส่วนผสมหลักปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นพอจับถนัดมือใส่งาขาวเป็นตัวช่วยขัด เพิ่มน้ำมันมะกอกเล็กน้อยลดความระคายเคือง
- ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ใช้แค่งาขาว งาดำผสมน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ตก็พอ
- การใช้น้ำมัน จุดประสงค์สำคัญคือช่วยหล่อลื่นและเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของกรดสำหรับคนผิวแห้งเช่น ถ้าคุณต้องการใช้สับปะรดขัดผิวแต่เกรงว่าผิวจะแห้งเกินไป การเพิ่มส่วนผสมน้ำมันก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะนอกจากช่วยให้ลื่นแล้วน้ำมันยังช่วยเคลือบผิวไม่ให้มีการสูญเสียน้ำมากเกินไป
- การเพิ่มนม โยเกิร์ต น้ำผึ้ง หรืออื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวสามารถทำได้ แต่ต้องดูไม่ให้สครับข้นหรือเหลวเกินไปลักษณะของสครับที่ดีควรมีความหนืดเล็กน้อยจับตัวอยู่บนผิวได้และสะดวกแก่การขัด
- ใครที่ชอบความหอมรื่นรมย์ สามารถเสริมกลิ่นด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไป 2-3 หยด ซึ่งต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยสำหรับนวดตัว ซึ่งมักผสมที่ความเข้มข้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่สำหรับใส่เตาเผาน้ำมันเพราะน้ำมันหอมระเหยเข้มข้นจะทำให้ผิวไหม้
- คนที่มีโรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง เช่น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบรุนแรง ต่อมน้ำเหลืองโต มีแผลเป็นหนอง หรือแม้แต่เป็นสิวอักเสบ ควรงดการสครับชั่วคราวจนกว่าจะหายเพราะการขัดเป็นการกระตุ้นให้อักเสบมากขึ้น
- ถ้าจะสครับหน้าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนที่สุด ขัดอย่างเบามือเพื่อกระตุ้นน้อย ๆ เน้นไปที่ร่องจมูกเลี่ยงจุดที่บอบบางมาก ๆ เช่น รอบดวงตา
ทำไมชายไทยถึงชอบผู้หญิงผิวขาว
แน่นอนว่าคำถามนี้หนุ่มๆ ไม่ต้องคิดมากที่จะตอบเลย เพราะแค่เอ่ยว่าผู้หญิงผิวขาว คำตอบก็ลอยขึ้นมาให้เต็มกันไปหมด ผิวขาวไม่ได้หมายความว่าสาวๆ จะดูสวยเพียงอย่างเดียว เพราะการที่เรามีผิวขาวนั่นหมายความว่าเวลาที่หนุ่มๆ เห็นเราในระยะไกล มันทำให้เราดูมีออร่า ดูสะอาดสะอ้าน น่าสัมผัส น่าแตะเนื้อต้องตัวยิ่งนัก ยิ่งเวลาที่สาวๆ ถ่ายภาพ อาจไม่ใช่กับหนุ่มๆ แต่เป็นในบรรดาหมู่เพื่อนด้วยกันเอง ถ้าเรายิ่งขาว เราก็ยิ่งดูดี เห็นได้ชัด ไม่ต้องไปพึ่งแอพลิเคชั่น หรือ Photoshop ให้เสียเวลาจริงรึเปล่าล่ะ บอกเลยว่าสไตล์ความชอบของหนุ่มๆ ในบ้านเรา หรือหนุ่มๆ เอเชียไม่เหมือนกับหนุ่มๆ ในแถบตะวันตกที่ชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง เพราะฉะนั้นทำผิวให้ขาวไว้ล่ะดีแล้ว
ทำไมแสงแดดจึงทำให้ผิวคล้ำ
ถ้าการอธิบายแบบธรรมดาคงจะยังไม่เห็นภาพ จะขอยกตัวอย่างการไปเที่ยวทะเลก็แล้วกัน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ทำให้เราบอกลาผิวขาวไปได้เลย เพราะเป็นสถานที่ที่เราจะโดนแดดได้ง่ายที่สุด ผิวคล้ำได้ง่ายที่สุด ซึ่งเมื่อเราโดนแดดร่างกายของเราก็จะสร้าง เม็ดสีเมลานิน ขึ้นใต้ชั้นผิวหนัง ยิ่งเราโดนแดดมากขึ้นเท่าไหร่ร่างกายก็จะยิ่งสร้างเม็ดสีเมลานินสะสมมากขึ้นเท่านั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวหนังได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อไหร่ตากแดดนานๆ เข้าทำให้เรามีสีผิวที่คล้ำขึ้นมากกว่าการโดนแดดอ่อนๆ
ขอบคุณที่มา: n3k.in.th, inderm.go.th
ภาพประกอบจาก อินสตาแกรม: @gracekanklao
7 วิธีทำให้ผิวขาวเนียนขึ้นใน 7 วัน
รู้สาเหตุกันไปแล้วว่าทำไมหนุ่มๆ ถึงได้ชอบสาวผิวขาวกันนัก อีกทั้งได้รู้ว่าผิวหนังของเราเกิดการคล้ำเสียได้อย่างไร คราวนี้ก็มาถึงวิธีการบำรุงรักษากันบ้าง อาจเรียกวิธีนี้ได้ว่าเป็นการเพิ่มความขาวให้กับผิวแบบ Fast Track ทำต่อเนื่องก็เห็นผลทันที มีการพิสูจน์มาแล้วจากผู้ที่ได้ลองทำเป็นประจำ แต่บอกไว้ก่อนว่าสูตรนี้เป็นสูตรเร่งรักและเห็นผลว่าผิวนั้นขาวขึ้นมาได้ 1/4 ของสีผิวเฉดเดิม มีอยู่ด้วยกันหลายขั้นตอนเลยทีเดียวล่ะ ไม่ยาก ลองมาเริ่มทำตามกันดู !
- 1. ช่วงเช้าๆ หลังจากตื่นนอน ให้สาวๆ กินน้ำมะเขือเทศปั่น 3 ลูก ต่อ 1 แก้ว ช่วงแรกอาจจะดูยาก ต้องฝืนกินสักน้อย แต่ทำบ่อยๆ ก็จะคล่องไปเอง
- 2. ขัดผิวด้วยสครัยขัดผิว อาจหาซื้อเป็นสครับสำเร็จรูปได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือจะหาซื้อผงขมิ้นขัดผิว ครีมขัดผิว มะขามเปียก ผงขัดผิวว่านางคำ ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็เป็นสูตรในแบบฉบับตำราโบราณ ส่วนถ้าเป็นการขัดผิวในแบบสมัยใหม่จะใช้สครับยี่ห้ออะไรก็ได้ หรือทำมันขึ้นมาเองเลยก็ได้นะซึ่งเจ๋งมาก วัตถุดิบก็มี น้ำตาลทรายและน้ำผึ้งนำมาผสมกันในอัตราส่วน 1/1 มีกลิ่นหอม น่ากิน เมื่อผสมเสร็จแล้วก็นำมาใช้ขัดผิว 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยทำให้ผิวเราใสขึ้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้อย่างง่ายดาย
- 3. ทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 PA ++ ขึ้นไปในบริเวณใบหน้าและลำตัว แนะนำว่าบริเวณใบหน้าต้องลงที่ SPF 15 ก่อนเพื่อเป็น DNA Guard จากนั้นค่อยเพิ่มขึ้นไปทีละ 15 > 30 > 45 > 60 หรือถ้าจะให้ง่ายหน่อยก็เป็น SPF 15 > 30 > 60 ที่ต้องทาไว้หลายชั้นก็เนื่องจากพลังการปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลทก็จะมีเพิ่มมากขึ้น และให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าเมื่อออกแดด อีกทั้งไม่ต้องทางซ้ำทุก 2 ชั่วโมงให้เปลืองเวลาด้วย การันตีว่าจะไม่ทำให้ผิวคล้ำ หรือหมองเวลาออกแดดอีกแน่นอน
- 4. หากสาวๆ คนไหนที่มีเวลาเยอะหน่อย แนะนำว่าให้หมั่นไปทำทรีทเมนต์บ่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาชั้นผิวและบำรุงผิวพรรณให้ดีอยู่เสมอ ในกรณีคนที่เป็นสิวบ่อยสิวก็จะหายได้เร็วขึ้น รวมถึงให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Whitening , AHA / BHA , VitE , VitC โดยเฉพาะครีมที่กรดจำพวกกรดผลไม้ หรือกรดสังเคราะห์ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้เป็นอย่างดี และทำให้ผิวขาว เรียบเนียนได้ไว
- 5. เรื่องของการดื่มน้ำเป็นวิธีที่สาวๆ ทำได้ง่ายที่สุด เพียงดื่มน้ำวันละ 8 - 10 แก้ว เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขาดไมได้ เพราะการดื่มน้ำมากๆ เป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณของเราเปล่งปลั่งจากภายใน อีกทั้งยังเป็นการขับของเสีย หรือสารพิษออกจากร่างกายด้วย ที่สำคัญไปมากที่สุด คือ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
- 6. ต่อมาให้เริ่มรับประทานผักผลไม้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะแครอทและมะเขือเทศที่มีสารเบต้าแคโรทีนและไลโคปีนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารสีในผลไม้ประเภทนี้จะทำให้ผิวมีสีและมีเลือดฝากมากขึ้นเมื่อรับประทานในปริมาณที่มาก
- 7. สำหรับการทาครีมกันแดดต้องทาหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เพราะถึงแม้ว่าในวันที่ฝนตกหนัก หรือเมฆหนา UVB ก็ยังสามารถผ่านชั้นเมฆมา หรือสะท้อนคอนกรีตของบ้านเราได้ ฉะนั้น การที่เราอยู่บ้านเป็นเวลานาน ไม่ได้ออกไปไหน แต่เราก็สามารถที่จะดำ หรือผิวคล้ำเสียได้ แนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดในช่วงก่อน 7 โมงก่อนออกแดด จากนั้นก็หลีกเลี้ยงการถูกแดดเป็นเวลสนานๆ โดยช่วงเวลา 10 โมง ถึง บ่าย 2 จะเป็นช่วงที่มีแดดจัดมากที่สุด
ผิวขาวเป็นสีผิวที่ชาวเอเชียนิยม ผู้ชายชาวเอเชียชอบผู้หญิงที่มีผิวขาว เพราะทำให้รู้สึกถึงความสะอาด เรียบร้อย โดยจริงแล้วนั้นสีผิวถือเป็นความชอบส่วนบุคคลมากกว่า ซึ่งแสงแดดในประเทศไทยนั้นก็รุนแรง และทำให้ผิวคล้ำได้ง่าย ดังนั้นสาวๆ ที่อยากจะมีผิวขาวจะต้องดูแลตัวเองดีๆหน่อย หมั่นทาครีมบำรุงผิว หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ขอบคุณที่มา: dek-d.com