4 วิธีทําให้ผ้าแห้งเร็วในช่วงหน้าฝน แห้งไวไม่ต้องกลัวเหม็นอับ ไม่มีเครื่องอบผ้าก็ไม่ใช่ปัญหา!
หน้าฝนทีไร ผ้าที่ตากไว้มักแห้งไม่ทันเวลาทุกที ซ้ำยังมีกลิ่นเหม็นอับไม่หอมสะอาดเหมือนช่วงหน้าร้อน ในบางรายยิ่งแล้วใหญ่ เพราะผ้าที่ตากไว้ยังแอบมีเชื้อรา ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ คงไม่ดีแน่ๆ ค่ะ เราเลยมี 4 วิธีทําให้ผ้าแห้งเร็วในช่วงหน้าฝน สวมใส่ได้ทันใจ ถึงแม้ว่าสาวๆ จะไม่ไม่มีเครื่องอบผ้าก็ตาม คราวนี้ เราก็ไม่ต้องมาคอยห่วงแล้วล่ะค่ะ ว่าเสื้อผ้าจะไม่แห้ง เรียกว่าต่อให้ฝนตกกระหน่ำเท่าไหร่ ก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเสื้อผ้าของสาวๆ อย่างแน่นอนค่ะ
1. ใช้วิธีบิดและสะบัดผ้าให้มากที่สุด
การบิดผ้าและสะบัดผ้าจะช่วยให้น้ำที่อยู่ในเส้นใยของผ้าออกมาค่ะ และยังช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นหากเราซักผ้าในช่วงหน้าฝน การบิดและสะบัดผ้าหลายๆ ครั้ง จะเป็นการเร่งให้ผ้าแห้งเร็วได้อีกทางหนึ่งค่ะ
2. เลือกใส่ผ้าที่เนื้อบางลงซักหน่อย
ผ้าส่วนมากที่มีกลิ่นอับ เนื่องจากผ้าเหล่านี้มีเนื้อผ้าที่หนาและทำให้แห้งช้ากว่าปกติค่ะ ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ทางที่ดีจึงควรเลือกใช้ผ้าที่มีเนื้อบางลงหน่อยก็จะช่วยได้มาก หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ผ้าที่เนื้อหนา การตากให้ห่างๆ กันก็เป็นอีกทางที่ช่วยได้ค่ะ
3. ตากผ้าในห้องแอร์หรือใช้พัดลมช่วยเป่า
จริงๆ แล้วการตากผ้าในห้องแอร์ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วค่ะ เพราะอากาศในห้องเอร์ค่อนข้างแห้งและเย็น จึงทำให้ผ้าของเราแห้งได้โดยง่าย และพัดลมหรือตรงคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เป็นอีกหนทางที่ช่วยให้ผ้าของเราแห้งเร็วได้เช่นกันค่ะ ยิ่งถ้าสาวๆ บิดและสะบัดผ้าแบบวิธีแรกรวมกับการตากในห้องแอร์หรือพัดลม ก็จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วแถมยังลดกลิ่นอับได้ด้วยค่ะ
4. ใช้เบกกิ้งโซดาหรือผงฟู
ขั้นตอนนี้ให้เราทำตอนซักผ้าค่ะ โดยผสมเบกกิ้งโซดาหรือผงฟูก็ได้ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 กะละมังซักผ้า จากนั้นนำผ้าที่ซักสะอาดแล้วลงแช่ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาจะช่วยลดกลิ่นอับของผ้าได้ แม้ไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มค่ะ รวมถึงเรายังสามารถใช้ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดานำมาทำความสะอาดถังซักผ้าได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดกลิ่นอับของผ้าได้ค่ะ
ขอบคุณที่มาจาก : true ID