10 ประโยชน์ของน้ำว่านหางจระเข้

 

 

1. เป็นยาระบาย

          สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและการทำงานของลำไส้ น้ำว่านหางจระเข้ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาระบายจะช่วยบรรเทาความผิดปกติที่เกิดจากระบบเหล่านี้ได้ โดยสารอาหารในว่านหางจระเข้จะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้การย่อยอาหารและการขับถ่ายของเราดีขึ้น

2. แก้ท้องอืด

          การศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านเผยว่า น้ำว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องอืดในกลุ่มผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้ดี อีกทั้งส่วนวุ้นของว่านหางจระเข้ยังจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ลำไส้ แก้ปัญหาท้องผูกในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนได้ ซึ่งเมื่อระบบขับถ่ายของคนไข้เริ่มดีขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้องที่เกิดเพราะลำไส้แปรปรวนก็จะลดน้อยลงตามลำดับ

3. บรรเทาอาการกรดไหลย้อน

          น้ำว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกเพราะกรดไหลย้อนได้ด้วยนะคะ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น และวุ้นของว่านหางจระเข้ก็มีส่วนช่วยจัดการกรดเกินในกระเพาะอาหารเราได้ด้วย ดังนั้นคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนจะลองดื่มน้ำว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการแทนยาบ้างก็ได้

4. ล้างพิษ

          สรรพคุณเด่นของว่านหางจระเข้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือสรรพคุณด้านล้างพิษ โดยมีการศึกษาจากหลายประเทศที่เห็นพ้องต้องกันว่า ตัววุ้นของว่านหางจระเข้คืออาวุธสำคัญที่ช่วยพาเอาสิ่งตกค้างหรือสารพิษที่ลอยนวลอยู่ตามลำไส้ออกไปจากร่างกายเรา และวุ้นว่านหางจระเข้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ให้มีประสิทธิภาพขึ้น นอกจากนี้ โพแทสเซียมที่มีอยู่ในว่านหางจระเข้ยังดีต่อการทำงานของตับและไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยในการคัดกรองและกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วยล่ะ

5. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

          มีการศึกษาที่พบว่า น้ำว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นตัวช่วยลดระดับกลูโคสในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลในเลือดเกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนักวิจัยได้อธิบายเหตุผลว่า ในว่านหางจระเข้มีแร่ธาตุที่ดีต่อเลือดอยู่หลายชนิด ทั้งโครเมียม แมกนีเซียม สังกะสี และแมงกานีส ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยควบคุมอินซูลินในเลือดได้ดี ทว่าการจะนำน้ำว่านหางจระเข้มาใช้เป็นยาลดน้ำตาลในเลือดอย่างจริงจังคงต้องทำการวิจัยกันต่อไปอีกในอนาคต

 

 

6. ลดความเสี่ยงโรคเหงือกอักเสบ

          ด้วยคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบในร่างกาย ทำให้มีนักวิจัยจากอินเดียนำว่านหางจระเข้ไปศึกษาเกี่ยวกับปัญหาในช่องปาก ซึ่งผลการวิจัยก็ทำให้ทราบว่า น้ำว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยลดคราบพลัคและจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับน้ำยาบ้วนปากเลยทีเดียว ที่สำคัญน้ำว่านหางจระเข้ยังใช้บ้วนปากได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ อีกด้วย และเมื่อแบคทีเรียและคราบพลัคในช่องปากลดจำนวนลง โอกาสเกิดโรคเหงือกอักเสบก็จะลดน้อยลงไปด้วยนั่นเองค่ะ

7. ลดอาการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกาย

          นอกจากแร่ธาตุและวิตามินแล้ว ในว่านหางจระเข้ยังมีโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งถือเป็นสารที่ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกา­­­ย และเจ้าสารชนิดนี้จะเข้าไปชะลอการอักเสบและช่วยกระตุ้นการทำงานของ­­­ระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้การอักเสบต่าง ๆ ในร่างกายบรรเทาลงได้

8. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ดีต่อหัวใจ

          ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อให้อาสาสมัครที่มีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ พบว่า ปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดของอาสาสมัครทุกคนลดลงราว 15% อีกทั้งผลการศีกษาจากประเทศอิหร่านยังพบด้วยว่า สารในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยป้องกันภาวะไขมันเกาะจับเส้นเลือดได้ในระดับหนึ่ง ส่งผลให้ไขมันในกระแสเลือดลดน้อยลงด้วย ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ เลือดก็จะสูบฉีดเข้าสู่หัวใจได้อย่างเป็นปกติดี ไม่มีอะไรมาขวางให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง

9. ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ

          เห็นเป็นสมุนไพรหาง่ายแบบนี้แต่รู้ไหมว่าว่านหางจระเข้เป็นแหล่งคอลลาเจนและโปรตีนที่ดีมาก ๆ ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนในการสร้างกล้ามเนื้อในคนที่ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้ออยู่แล้ว และโปรตีนในว่านหางจระเข้ยังจะช่วยกระตุ้นความตื่นตัวของร่างกาย และเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักไปด้วยในตัว แต่ทั้งนี้ประโยชน์ดังกล่าวจะเห็นผลได้ชัดกับคนที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ

10. ช่วยลดน้ำหนัก

          จากสรรพคุณในด้านช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด และด้วยคุณสมบัติช่วยล้างพิษ กระตุ้นการขับถ่าย จึงทำให้ว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ว่านหางจระเข้เองก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะเข้าไปส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายให้มีความแข็งแกร่ง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นคนที่ลดน้ำหนักอยู่จะดื่มน้ำว่านหางจระเข้เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจลดอ้วนของตัวเองก็ได้ ทว่าก็พยายามเลือกดื่มน้ำว่านหางจระเข้ที่หวานน้อย หรือมีปริมาณน้ำตาลไม่เยอะด้วยล่ะ

 

 

ขอบคุณที่มาจาก : kapook