9 สัญญาณเตือนภัย! ที่คุณต้องลดความอ้วน
หลายคนเคยประสบปัญหาเช่นนี้มาแล้ว และยอมรับว่ามากเลยกับการห่างหายการออกกำลังกาย และการควบคุมอาหาร เพราะดูเป็นเรื่องยุ้งยาก ฝืนตัวเอง และอาจจะไม่มีเวลาขนาดนั้น เลยกลายเป็นว่าตามใจปาก หยิบนุ่นหยิบนี่มาทานอยู่เสมอๆ โดยไม่ได้คำนึงว่าตัวเองทานอะไรลงไปบ้าง จนวันหนึ่งเกิดรู้สึกอึดอัดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก.
บางทีอาจแอบคิดได้ว่า “นี่เราอ้วนขึ้นหรือเปล่านะ” ถ้าเริ่มมีอาการสงสัยแบบนี้
ลองมาดูสัญญาณต่อไปนี้ แล้วลองมาปรับพฤติกรรม และกิจวัติประจำวันกันคะ
1.เสื้อผ้าเริ่มคับ ใส่ชุดโปรดไม่ได้
ชุดโปรด หรือกางเกงตัวเก่งที่เคยหยิบมาใส่ตลอดแทบทุกวัน จนมาวันนี้กลับใส่ไม่ได้ หรือว่าใส่ได้ แต่ก็ต้องอัดตัวเองลงไปในกางเกงยีนฟิตๆ จนแทบจะเป็นลม แถมยังรูดซิปไม่ได้อีกต่างหาก อาหารแบบนี้จะไม่ลดความอ้วนได้อย่างไร
2.มีคนเริ่มทัก
บางครั้ง เราก็ไม่รู้ตัวเองหรอกว่าเราอ้วนขึ้น จนต้องมีคนใดคนหนึ่งมาทัก และจะเริ่มมีการสำรวจตัวเอง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวที่ย่อมสังเกตุ เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวคุณได้ชัดเจนกว่าบัคคลอื่น ถ้าวันหนึ่งเขาพูด หรือทักคุณขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนัก และเรื่องสุขภาพคุณขึ้นมา โปรดฉุกคิดได้เลยว่า เขากำลังเตือนเราเรื่องความอ้วนแน่ๆ และคุณควรที่จะปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างทันทีเลย
3.เซลลูไลท์เริ่มถามหา
ถ้าร่างกายของคุรเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แน่นอน ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนคุณเอง ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
คุณต้องหมันสังเกตุร่างกายตัวเอง กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพ และร่างกายของคุณ เช่น เมื่อคุณเริ่มมีน้ำหนักเพิ่ม แน่นอนไขมัน หรือเซลลูไลท์จะเห็นได้ชัดขึ้น ดูจากแขน ขา หรือทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะเกิดเซลลูไลท์ในร่างกาย เราควรหมันออกกำลังกาย เพื่อกระชับสัดส่วน สลายไขมันส่วนเกินในร่างกายนะคะ
4.คุณหมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก
เมื่อถึงขั้นคุณหมอเริ่มีการแนะนำให้ลดความอ้วน เรายิ่งต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วในระดับหนึ่ง บางทีคุณอาจจะป่วยเล็กๆ น้อยๆ แล้วหมออาจจะพูถึงเรื่องสุขถาพและน้ำหนักขึ้นมา คือเป็นสัญญาณเตือน ว่าคุณควรลดน้ำหนักได้แล้ว เพราะคุณหมอรู้ดีว่า การมีน้ำหนักเกินจะนำไปสู่โรคเรื้อรัง และอันตรายได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะหยุดหายใจชั่วคราว
ดังนั้น ถ้าคุณหมอเห็นว่าคุณกำลังก้าวขึ้นสู่กลุ่มเสี่ยง คุณก็ต้องควบคุมน้ำหนักตัวเองได้แล้ว โดยอาจขอคำแนะนำเรื่องแผนการลดน้ำหนักจากคุณหมอก็ได้คะ
5.กิน…ทั้งๆ ที่ไม่หิว
คุณสามารถวัดดัชนีมวลกายได้จาก BMI (Body Mass Index.) เป็นการคำนวณเพื่อประเมินหาไขมันส่วนเกินในร่างกาย สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้คุณอ้วนไป พอดีแล้ว หรือผอมไป สามารถคำนวณได้ง่ายๆ โดยนำตัวเลขความสูงมายกกำลังสอง แล้วเอาไปหารน้ำหนักตัวคุณ
ตัวอย่าง BMI = น้ำหนักตัว / ความสูง (เมตร) ยกกำลังสอง.
ถ้าค่าที่ได้น้อยกว่า 18.5 แสดงว่า คุณน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ถ้าค่าที่วัดได้มากกว่า 25 แสดงว่าคุณน้ำหนักเกิน
และยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ แสดงว่าคุณเข้าเกณฑ์อ้วนแล้ว ควรรีบลดน้ำหนักอย่างจริงจัง และหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นนะคะ
6.รู้สึกหมดเรี่ยวแรง
ถ้าคุณเริ่มมีอาการ ความรู้สึกเศร้าซึม หงอยเหงา และเหนื่อยตลอดเวลา เหมือนกับหมดพลังในตัวเอง ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบอกให้คุณต้องลดน้ำหนักแน่นอน และมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้อยู่ดีๆ คุณก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมา
แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนให้คุณไปพบแพทย์ เพื่อเป็นการป้องกันว่าคุณจะไม่อ้วนขึ้นมากไปมากกว่านี้นะคะ
7.ไม่อยากส่องกระจก
สำหรับคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หรือไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง ดังนั้นคุณควรเลือกที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร และกิจวัติประจำตัว หันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น เพื่อหุ่นสวย รูปร่างดีกันดีกว่านะคะ
8.คุณไม่รู้ตัวว่า แต่ละวันทานอะไรเข้าไปบ้าง
เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกายแต่ละคน แต่ละวัน ควรได้รับพลังงานประมาณ 2,000-2,500 แคลอรี่ต่อวัน บางคนอาจทานอาหารเข้าไปมาก จนไม่อาจรู้ได้ว่า 1 วัน ตัวเองทานอะไรเข้าไปบ้าง หรือได้รับแคลอรี่มากกว่าความต้องการแค่ไหน ฉะนั้นควรที่จะควบคุมน้ำหนักตัวเอง โดยเริ่มสังเกตุ และจดจำว่าตัวเองทานอะไรเข้าไปมากน้อยแค่ไหน แล้วได้พลังงานสักแค่ไหน ความอ้วนจะได้เอื้อมไม่ถึงเราคะ
9.ไม่ยอมชั่งน้ำหนัก
หนักสุดๆเลย แสดงถึงการไม่ดูแลตัวเอง ละเลยที่จะควบคุมน้ำหนัก รวมไปถึงการละเลยควบคุมการทานอาหารต่างๆ
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้อ้วนได้ง่ายมากๆ กว่าข้ออื่นๆ ที่เขียนข้างต้น เมื่อคุณไม่ยอมชั่งน้ำหนัก คุณจะไม่อาจรู้ได้เลยว่าคุณอ้วนระดับไหน หรือคุณไม่อาจรู้ได้ว่าคุณจะสามารถลดน้ำหนักได้เมื่อไหร่ สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วน ควรที่จะหันมาดูแล
เอาใจใส่รูปร่าง และสุขภาพตัวเองให้มากขึ้น เพราะโรคอ้วนมันน่ากลัว และหลายคนก้ไม่อยากเป็น
หลายคนอาจเข้าใจว่า “การลดความอ้วน” นั้น ทำไปเพื่อให้มีหุ่นที่ดี หุ่นที่เพรียวสวยเท่านั้น แต่จริงๆ
ยังมีประโยชน์ในเรื่องของสุขภาพที่ดีด้วย.
**การที่มีน้ำหนักเกินมาตราฐาน เท่ากับว่ามีโอกาสตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น.**
ขอบคุณข้อมูลจาก padasopus
