อยาก Diet แต่ขี้เกียจ ไม่ชอบออกกำลังกายหนักๆ ฟังทางนี้!

อย่างที่สาวๆ รู้กันว่าการลดน้ำหนักนั้น ต้องควบคุมอาหาร (Diet) และออกกำลังกายควบคู่กันไป ถึงจะได้ผลมากที่สุด แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยอมอดอาหาร ทนมานตัวเอง แทนการออกกำลังกาย เพราะไม่อยากเหนื่อย หรือบางคนออกกำลังกายอย่างเดียว แต่ไม่ควบคุมอาหาร ผลสุดท้ายการลดความอ้วนก็เฟลไป

 

 

การลดความอ้วนไม่ใช่สิ่งที่จะทำแล้วจะเห็นผลภายใน 2-3 วัน จะสวยทั้งที ก็ต้องพยายามกันหน่อย เราอาจจะไม่จำเป็นต้องซีเรียสกับการไดเอทมากเกินจนตัวเองเครียด เพียงแค่สาวๆ ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถผอมลงได้แล้ว ไม่เชื่อก็ลองนำเคล็บลับที่เรานำมาฝากไปทำตามกันดูสิคะ ขี้เกียจแค่ไหนก็ผอมได้

 

แขม่วพุง​

ตอนนั่งรถ นั่งเล่น นั่งทำงาน ก็สามารถลดพุงได้โดยการแขม่วพุง แค่สาวๆ ลองควบคุมลมหายใจเข้า-ออก ให้เป็นปกติ แต่ไม่ต้องกลั้นลมหายใจนะคะ จากนั้นให้แขม่วท้องค้างไว้โดยการหายใจเข้า-ออก  3 เซต หรือประมาณ 6-20 วินาที วิธีนี้สามารถทำได้บ่อยตามความต้องการ เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดความทนทาน แล้วพุงย้อยๆ ของเราก็จะค่อยๆ ยุบลงไปเองค่ะ

 

อย่าปล่อยให้หิว!

มีหลายคนพยายามจะลดความอ้วนโดยการหักดิบ จากที่เคยรับประทานอาหารทุกมื้อ กลับอดอาหาร ท้ายที่สุดร่างกายก็จะปรับสภาพไม่ไหว ความตบะแตกก็จะมาเยือน ยิ่งหิว ยิ่งกินเยอะ การลดน้ำหนักเลยไม่ได้ผล ความผอมก็ไม่ปรากฏ เสียเวลาเปล่าๆ ค่ะแบบนี้ สำหรับใครขี้เกียจแต่อยากผอม ก็แค่อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวโซ กินอาหารตามปกติ โดยการลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อและเลี่ยงการกินจุกจิกแทนดีกว่าค่ะ

 

ลดแป้งและน้ำตาล

บอกแล้วว่าไม่ต้องซีเรียส กินปกติครบทั้ง 3 มื้อได้เลย แต่พยายามลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นขนมปังเอย ขนมหวานเอย น้ำชงเอย ถ้างดไม่ได้ก็ลองเปลี่ยนเป็นลดปริมาณดูค่ะ วิธีนี้ทำให้น้ำหนักสาวๆ ลดมานักต่อนักแล้ว อาจจะไม่ได้เห็นผลทันตา แต่ได้ผลแน่นอน แถมไม่ทรมานด้วย ระหว่างมื้ออาหารเราอาจจะเลือกของทานเล่นที่ไม่อ้วนมากแทนการกินขนมมันๆ

 

เดินให้มากขึ้น​

ไม่ต้องคาร์ดิโอ  ไม่ต้องเต้นซุมบ้า แค่ “เดิน” ให้มากขึ้น ก็ช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันได้แล้ว เพราะแค่เดินธรรมดาก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 300 กิโลแคลอรี่แล้ว หรือลองเปลี่ยนจากขึ้นลิฟท์มาเป็นเดินขึ้น-ลงบันไดแทน ยิ่งหลายขั้น ก็ยิ่งเผาผลาญได้มาก และอาจจะมากถึง 1,000 กิโลแคลอรี่เลยด้วยซ้ำ ข้อเสนอนี้น่าสนใจนะคะ

 

ทำงานบ้าน​

ขี้เกียจออกกำลังกาย ขี้เกียจเดินทางไปฟิตเนส เพราะไม่มีเวลา แล้วไง? ก็อยู่บ้านมันนี่แหละค่ะ แต่อยู่บ้านเฉยๆ ก็คงไม่ดีเท่าลุกขึ้นมาจากโซฟาและทำงานบ้านหรอกค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองมาดูกันว่างานบ้านแต่ละอย่าง ช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้เท่าไหร่กันนะ?

ปัดฝุ่น 1 ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้  150-200 กิโลแคลอรี่
ถูกบ้าน 1 ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้  222-444 กิโลแคลอรี่
เช็ดกระจก ครึ่งชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้  150 กิโลแคลอรี่
จัดเตียงนอน เผาผลาญพลังงานได้  70 กิโลแคลอรี่
ตัดหญ้า ครึ่งชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้  130 กิโลแคลอรี่
ล้างรถ ครึ่งชั่วโมง  เผาผลาญพลังงานได้  150 กิโลแคลอรี่
ขัดห้องน้ำ 1 ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้ 96 กิโลแคลอรี่
ทำสวน 1 ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้ 300-450 กิโลแคลอรี่
ปลูกต้นไม้ 1 ชั่วโมง เผาผลาญพลังงานได้ 250  กิโลแคลอรี่

 

เคี้ยวหมากฝรั่ง/แปรงฟัน​

ที่จับการเคี้ยวหมากฝรั่งกับการแปรงฟันมาอยู่ด้วยกัน ก็เพราะว่าทั้งสองอย่างนี้ จะช่วยลดอาการอยากอาหารหรือพูดง่ายๆ ก็คือ ช่วยให้เรากินจุกจิกน้อยลงนั่นเอง แต่อย่าลืมเลือกหมากฝรั่งน้ำตาลน้อยกันด้วยล่ะ

 

เลิกเสียดายของ​

ขั้นแรก เคลียร์ตู้เย็นก่อนเลย พยายามอย่าตุนอาหารอ้วนๆ ไว้ในบ้าน เพราะถ้าหิวก็จะหยิบกินได้ง่าย แต่ถ้าอยากกินจริงๆ ก็ออกไปซื้อหน้าปากซอยเอา อย่างน้อยก็ได้เดินบ้าง เป็นการออกกำลังกายไปในตัว และใครที่ชอบเสียดายของ ไม่ชอบให้อาหารเหลือ จะบอกว่าปล่อยให้เหลือไปเถอะค่ะ เพราะถ้าน้ำหนักขึ้นแล้วจะขี้เกียจออกกำลังกายขนาดนี้ แล้วคราวหลังก็กินแบบพอดีๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย

 

เสิร์ฟวิธีลดความอ้วนแบบง่ายๆ ที่แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรขนาดนี้แล้ว ถ้าสาวๆ ยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนฉุอีกล่ะก็…เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วล่ะเนอะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก beautyhunter