ออกกำลังกายด้วยการเดิน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ใคร ๆ ก็ทำได้ ยิ่งถ้าเดินให้ได้วันละหมื่นก้าว ก็บอกลาหลายโรคภัยไข้เจ็บได้จริง ๆ
ไม่ว่าจะอยู่วัยไหนก็สามารถเดินออกกำลังกายได้ โดยไม่เกิดอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงใด ๆ เพียงแค่เดินให้ถูกวิธี การเดินยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตแจ่มใส เพราะเมื่อเราออกกำลัง ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีธรรมชาติที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด คลายเครียด ทำให้รู้สึกสบายและมีความสุข แต่เราควรเดินอย่างไรนั้น ทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีคำแนะนำมาบอกค่ะ
การเดินที่เหมาะสมสำหรับแต่ละเพศแต่ละวัยนั้น มีอัตราการเดินที่ไม่เท่ากัน เช่น คนปกติในวัยทำงานเฉลี่ยแล้วควรจะเดินให้ได้วันละประมาณ 7,000-10,000 ก้าว ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ควรจะต้องระมัดระวังมากขึ้น
ทำไมการเดินจึงให้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านการป้องกันโรคและในด้านการรักษา
เมื่อเดิน 12,000-15,000 ก้าวต่อวัน จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวเพราะทำให้การเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้นน้ำหนักตัวจึงลดลง และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ
เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในอัตราความเร็วที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น จัดเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น ซึ่งอวัยวะทั้ง 2 นี้มีความสำคัญต่อเซลล์ต่าง ๆ ทุกส่วนของร่างกาย จำเป็นต้องได้รับเลือดที่นำเอาออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ปัจจุบันนี้ยังไม่มียาหรือสารอาหารใดที่จะทำให้หัวใจและปอดมีความแข็งแรง ทนทานได้เท่าการออกกำลังกาย
เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน หรือ 70,000 ก้าวต่อสัปดาห์ จะช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ดีขึ้นในผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง เมื่อร่างกายเราแข็งแรง มีน้ำหนักที่สัมพันธ์กับส่วนสูง มีการเผาผลาญพลังงานที่ดี ผลที่ตามมาคือโอกาสที่จะเกิดโรคความดันโลหิตสูงก็ลดลง หรือในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันก็จะสามารถควบคุมความดันได้ดีขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน หรือ 70,000 ก้าวต่อสัปดาห์ จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การเดินทำให้คนปกติเป็นเบาหวานได้ยากขึ้น ส่วนผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วก็จะทำให้ควบคุมน้ำตาลได้ง่ายขึ้น ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินลดลงนั้น พบว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้อินซูลินทำงานดีขึ้น ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้ดีขึ้น อันหมายถึงสามารถควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้นนั่นเอง
เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน หรือ 70,000 ก้าวต่อสัปดาห์ ช่วยเพิ่มไขมันดีหรือ HDL ที่ทำหน้าที่เก็บขยะหรือเก็บคราบไขมันตามผนังเส้นเลือดไปตับและขับออกทางน้ำดี ดังนั้นจึงเป็นการลดไขมันตัวร้ายหรือ LDLโดยในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันสูงอาจจะไม่ต้องรับประทานยาหรือใช้ในปริมาณที่ลดลง
เมื่อเห็นประโยชน์ของการเดินอย่างนี้แล้ว เราควรมาทำให้เรื่องเดินเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา วันหนึ่ง ๆ เราอาจเดินในสำนักงาน เดินไปที่จอดรถ เดินช้อปปิ้งช่วงพักกลางวัน เราก็สามารถเพิ่มจำนวนก้าว โดยเปลี่ยนจากการขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อน มาเป็นเดินขึ้นบันได เปลี่ยนจากการนั่งรถในระยะใกล้ ๆ มาเป็นการเดินให้ถึงที่หมายแทน และอาจเพิ่มการเดินพักผ่อน คลายเครียด หลังเลิกงาน ด้วยการเดินในสวนสาธารณะ
การเดินจัดเป็นการออกกำลังที่มีต้นทุนต่ำ ไม่มีค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ใด ๆ เพียงแต่ต้องสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับการเดินและสวมเสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ไม่จำเป็นต้องราคาแพง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
ที่มา:kapook