คงไม่มีใครหรอกที่อยากจะ หน้าแก่ ก่อนวัย แล้วต้องถูกคนอื่นเรียกต่างๆ นานาว่าพี่ ป้า น้า ลุง ทั้งที่จริงๆ แล้วเราอายุน้อยกว่า หรือเป็นวัยที่เพิ่งเริ่มทำงานเท่านั้น แล้วสาเหตุที่ทำให้หน้าของเราดูแก่ก่อนวัยนั้นเกิดจากอะไรน่ะหรอ? วันนี้เรามาดูกันดีกว่า

1. ทำความสะอาดผิวหน้ามากเกินไป

เราไม่ควรที่จะทำความสะอาด หรือขัดถูผิวหน้ามากเกินความจำเป็น จะทำให้ผิวหน้าของเราสูญเสียความชุ่มชื้นไป เพียงแค่ใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนก็สามารถทำให้ผิวหน้าสะอาด และผ่องใสได้แล้ว แต่ที่สำคัญต้องอย่าลืมทามอยส์เจอไรเซอร์หลังล้างหน้าทุกครั้งด้วย

แดดแรงๆทำร้ายผิวของเราเป็นอย่างยิ่ง

2. ตากแดดนานๆ

เวลาที่เรายืนตากแดดนานๆ แสงแดดจะค่อยๆ ทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสตินของคุณ ทำให้โมลกุลเหล่านี้กลายเป็นแป้งหยาบๆ นอกจากนี้แสงแดดยังอาจทำลายดีเอ็นเอของผิวหนังซึ่งอาจส่งผลให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ ทางที่ดีควรจะทาครีมกันแดดป้องกันไว้ก่อน

3. ออกกำลังกายหักโหม

การออกกำลังกายมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อใบหน้าและร่างกาย เนื่องจากการหหักโหมเกินไปจะทำให้ร่างกายของคุณเครียด ส่งผลให้ระดับคอร์ติซอลในร่างกายเพิ่มขึ้น และอาจทำให้หน้าของคุณดูซีด และอ่อนเพลีย ดังนั้นจึงควรจะออกกำลังกายแต่พอดี

หากผิวขาดน้ำจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้หน้าดูแก่และเหนื่อยล้า

4. ดื่มน้ำน้อย

ทั้งผิวหนัง และเนื้อเยื่อในร่างกายของเราล้วยต้องการน้ำเพื่อรักษาศักยภาพในการทำงานของเซลล์ หากผิวขาดน้ำจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้หน้าของเราดูแก่และเหนื่อยล้า แต่ถ้าได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้หน้าตาของเราสดใส และดูดีมากยิ่งขึ้น

 

5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามั่วๆ

หลายคนอาจซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหน้าต่างๆ แบบมั่วๆ เนื่องจากการขาดความรู้ในการบำรุงผิวอย่างถูกต้อง และไม่ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนซื้อ ดังนั้นทางที่ดีควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง หรือคนใกล้ตัวที่มีความชำนาญและน่าเชื่อถือพอ ก่อนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยของผิวหน้าคุณเอง

6. พักผ่อนน้อย

ช่วงเวลาที่คุณนอนหลับ ร่างกายและผิวของคุณจะทำการฟื้นฟูและซ่อมแซม หากเรานอนน้อยเกินไปจะทำให้ผิวซีดเซียวและมีรอยช้ำใต้ตา อีกทั้งยังไม่ควรทานอาหารในเวลาที่ดึกเกินไป เพราะการที่เราไม่ทานอาหารตอนดึกจะช่วยให้นอนหลับได้สนิท และสบายยิ่งขึ้น นอกจากนั้นการทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนนอนก็จะช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยิ่งขึ้นด้วย

หากเรานอนน้อยเกินไปจะทำให้ผิวซีดเซียวและมีรอยช้ำใต้ตา

7. การทานน้ำตาล

อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเข้มข้น จะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชั่นที่เนื้อเยื่อของมนุษย์ หรือการทำให้โมเลกุลนั้นเปราะบางนั้นเอง ซึ่งหากผิวหนังกับหลอดเลือดนั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาลจะทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และโมเลกุลที่ต้านการอักเสบ เช่น โยเกิร์ต เสาวรส น้ำมันมะกอก ปลาเนื้อขาว และผักคะน้า เป็นต้น