การออกกำลังกายเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่หลายคนให้ความสนใจ แต่รู้ไหม? ถ้า ออกกำลังกาย อย่างผิดวิธี แทนที่จะได้ผลดีแบบเต็มๆ กลับกลายเป็นได้ผลเสียตามมาซะอย่างนั้นด้วย ต่อไปนี้คือ 7 พฤติกรรมที่จะส่งผลต่อร่างกาย ใครกำลังทำอยู่ละก็ปรับเปลี่ยนโดยด่วนเลยนะจ๊ะ

ออกกำลังกาย-ผิด_01

การเริ่มต้นด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง หากร่างกายไม่แข็งแรงพออาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้

1. เริ่มต้นด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง

การวิ่งอาจเป็นวิธีการออกกำลังกายที่น่าสนใจ แต่ถ้าหากว่าร่างกายของคุณไม่แข็งแรงพอก็อาจเกิดความผิดพลาดจนถึงกับสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายได้เลยทีเดียว ยังมีทางเลือกในการออกกำลังกายอีกหลายวิธีที่ไม่ทำให้ข้อต่อของคุณเสื่อมสภาพ ได้แก่ การปั่นจักรยาน เดินออกกำลังกายด้วยเครื่องออกกำลังกายในน้ำ หรือการเต้นเพื่อบริหารหัวใจ เช่น แอโรบิก ลีลาศ เป็นต้น

2. ไม่มีการ Warm up

หลายคนที่มีเวลาในการออกกำลังกายแบบจำกัด มักจะมองข้ามขั้นตอน Warm up ไป ทั้งที่สุดแสนจะจำเป็น เพราะนอกจากจะเป็นการปรับระบบประสาทให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นการป้องกันอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือเหนื่อยเร็วเกินไปอีกด้วย จริงๆแล้วการ Warm up ไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากอะไรขนาดนั้นเลย แค่เดินเร็วๆพร้อมหมุนแขนเป็นวงกลม หรือเดินย่ำอยู่กับที่แล้วเอาแขนวางไว้เหนือศีรษะ ซึ่งหากมีเหงื่อซึมๆก็แปลว่า Warm up ร่างกายเพียงพอแล้วนั่นเอง

ออกกำลังกาย ผิด_02

การหักโหมหรือเร่งมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและเหนื่อยล้าสะสม

3. หักโหมหรือเร่งมากจนเกินไป

ความตื่นเต้นในการออกกำลังกายอาจทำให้คุณหักโหมกับมันมากจนเกินไป เช่น คุณออกกำลังกายทุกวัน อยากยกน้ำหนักเพิ่มกล้ามเนื้อเร็วๆ วิธีนี้อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และความเหนื่อยล้าที่สะสมมากเกินไป ดังนั้นการออกกายเพื่อบริหารหัวใจ 2-4 ครั้งต่อสัปดาห์หรือการฝึกที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อประมาณ 3 ครั้งก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกายใหม่ๆ จากนั้นเมื่อร่างกายปรับสภาพได้ก็ค่อยๆเพิ่มระดับความยากแล้วก็ระยะเวลาเข้าไป

4. ลืมยืดกล้ามเนื้อ

อย่าสับสนระหว่างการยืดกล้ามเนื้อกับการอบอุ่นร่างกายล่ะ การยืดกล้ามเนื้อควรทำหลังจากที่อบอุ่นร่างกายหรือออกกำลังกายเสร็จแล้วเท่านั้น หากไม่มีการยืดเส้นยืดสาย กล้ามเนื้อก็จะตึงและยิ่งกล้ามเนื้อตึงมากเท่าไร โอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บก็มีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นก่อนและหลังออกกำลังกาย ความยืดเส้นยืดสายให้เรียบร้อยซะก่อนนะ  

5. คิดว่าตัวเองอายุมากเกินไป

อายุเป็นเพียงตัวเลขสำหรับคนรักสุขภาพ! มีคนจำนวนไม่น้อยที่เพิ่งมาเริ่มออกกำลังกายเมื่อตอนที่อายุเยอะแล้ว แต่ด้วยความที่อายุมาก บ้างก็ตั้งเป้าในการออกกำลังกายต่ำเกินไป บ้างก็คิดว่าทำมากกว่านี้ไม่ไหวแล้วแน่ๆ ทั้งที่ความจริงแล้วการออกกำลังกายนั้นช่วยสร้างความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงเรื่องของสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้การยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวายในผู้สูงอายุอีกด้วยนะ อายุเยอะก็ไม่เป็นอุปสรรคในการออกกำลังกายนะอย่าเพิ่งกังวล

ออกกำลังกาย-ผิด_03

ถ้าคุณออกกำลังกายจนเหนื่อยหนัก โดยไม่ได้จิบน้ำเลยร่างกายจะเกิดอาการขาดน้ำ

6. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายเพราะร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 70% ดังนั้นแล้วถ้าคุณออกกำลังกายจนเหนื่อยหนัก โดยไม่ได้จิบน้ำเลยร่างกายจะเกิดอาการ Dehydrate หรือขาดน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้ช็อคเนื่องจากขาดน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายนั่นเอง

7. ไม่มียอม Cool down

ข้อนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการออกกำลังการซึ่งจะตรงข้ามกับการ Warm up เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วการ Cool down คือการเตรียมร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติก่อนจะเริ่มไปทำกิจกรรมอื่นๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ ถ้าไปอาบน้ำทันทีหลังจากทั้งที่ร่างกายยังร้อนอยู่อาจทำให้เป็นไข้ได้ นั่นเพราะเมื่อออกกำลังกายเสร็จอุณหภูมิในร่างกายยังสูงอยู่ เราจึงต้องปรับให้กลับมาที่จุดปกติก่อนไปทำอย่างอื่นนั่นเอง