
อาหารเป็นพิษ สามารถเกินขึ้นได้กับทุกคนในแต่ละปีมีผู้ป่วยจากอาหารเป็นพิษจำนวนมาก ถึงแม้จะมีความเอาใจใส่ในเรื่องของอาหารรวมถึงการแนะนำอาหารที่ถูกสุขลักษณะแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่ทำให้ผู้ป่วยนั้นมีจำนวนลดลงเลย อาการจะอยู่ในร้านอาหารหรูๆ ภัตตาคารขนาดใหญ่ โรงแรม ก็มีเชื้อโรคปะป่นอยู่ด้วยได้เช่นกัน ในการผลิตอาจจะปลอดภัยแต่ในการปรุงอาหารนั้นอาจจะไม่เหมาะสมหรือว่าทำให้เชื้อโรคที่มีไม่ตายได้ จากสถิติพบว่าอาหารที่อยู่ในร้านค้าทั่วไปเป็นอาหารมีพิษอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วระบบการขนส่งที่รวดเร็วและทันสมัยการกระจายของเชื้อโรคจึงมีความรวกเร็วและได้ไกลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารแช่แข็งหรือว่าอาหารที่ได้ปรุงสุกใหม่ๆ ก็มีเชื้อโรคได้เช่นกัน การระวังจำทำได้ยากและด้วยเชื้อโรคที่มีมากกว่าเดิม อาการเป็นพิษนั้นมีผลต่อเด็กและผู้สูงอายุจะขั้นรุนแรงมาก
อาการที่ได้รับอาหารเป็นพิษเข้าไป
อาการของคนที่ได้รับอาหารเป็นพิษเข้าไปจะมีอาการมากน้อยแล้วแต่ภูมิต้านทานในแต่ละคนและชนิดของเชื้อโรคที่ดีรับเข้าไปที่มีระยะฟักตัวที่แตกต่างกันไป บางชนิดใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมง บางชนิดใช้เวลานานมากกว่า 7 วัน แต่โดยทั่วไปจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน หรือมีไข้ตัวสั่น ถ่ายเป็นเลือด หากพบว่ามีอาการรุนแรงให้รีบพบแพทย์โดยทันที โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
อาการหากได้รับเชื้อมีพิษร้ายแรงมากกับคนที่มีร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว จะทำให้อาหารรุนแรงมากโดยเฉพาะอาการของกลุ่ม HUS จะทำให้โลหิตได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้มีอาการทางสมอง ปวดศีรษะ เห็นภาพหลอน หมดสติ โดยแพทย์มักจะใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาอาการ
ข้อควรปฏิบัติเมื่อมีอาการ
- หากพบว่ามีอาการที่ได้รับอาหารเป็นพาเข้าไปแล้ว ให้ร่างกายเราขับของเสียออกมาก่อนถ้าอาการไม่รุนแรงให้ปล่อยให้ถ่ายและไม่ควรกินยาแก้ท้องเสียเอง เพราะจะทำให้เชื้อโรคยังอยู่ในลำไส้ อาจจะมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
- ให้ดื่มน้ำ ท้องเสียเราจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากให้ดื่มน้ำเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ วิธีการดื่มให้ค่อยๆจิบที่ละน้อยให้จิบบ่อยๆ ถ้าเป็นน้ำอุ่นหรือว่าน้ำชาก็ดี หรือผสมกับน้ำเกลือแร่เข้าไปจะทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียจนเกินไป งดดื่มน้ำหวานและนม
- หากอาเจียน ให้นอนตะแคงเพื่อไม่ให้อาหารไหลย้อยกลับ
- งดอาหารประเภท ของมัน ของเผ็ด ของดอง นม หรือว่าผักผลไม้ไปก่อน จนกว่าจะแน่ใจว่าหายดีแล้วจึงค่อยกิน
- อาหารที่ควรทาน จะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย อย่างเช่นข้าวต้ม โจ๊ก หรืออื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำให้
- ป้องกันการติดต่อ หลังจากที่ได้รับเชื้อโรคเข้าไปแล้วอาจจะไปติดต่อกับผู้อื่นได้ การรักษาความสะอาดไม่ว่าเสื้อผ้าที่ต้องทำการฆ่าเชื้อ หรือว่าต้องคัดแยกในการซัก การทำความสะอาดเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยเพื่อไม่ให้เชื้อโรคกระจายไปที่อื่น
การป้องกันอาหารเป็นพิษ
สารพิษ ที่อยู่ในอาหารเกิดได้หลายสาเหตุ อย่างเช่นติดเชื้อจากวัตถุเอง การติดเอจากอุปกรณ์เครื่องครัวปรุงด้วยความร้อนและในระยะเวลาไม่พอทำให้เชื้อโรคนั้นตาย การรับประทานอาหารไม่สุก การเก็บอาหารเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นการที่จะป้องกันได้นั้นสามารถป้องกันได้ดังนี้
- การล้างมือ มือของเรานั้นในแต่ละวันได้สัมผัสอะไรมาบ้าง เชื้อโรคจำนวนมากที่อยู่ในมือดังนั้นแล้วควรที่จะล้างมือให้บ่อย และต้องล้างให้ถูกวิธีด้วย โดยเฉพาะก่อนการรับประทานอาหาร
- เลือกร้านอาหาร ร้านอาหารที่น่าเชื่อถือหรือว่าเรารับประทานอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว โดยร้านจะต้องมีสถานที่สุขลักษณะ ทั้งภายนอกภายในร้านและในครัว ขั้นตอนการทำอาหารต้องสะอาดและวัตถุดิบด้วย
- ทำความสะอาด การทำความสะอาดจะต้องทำทั้งหมดในครัวไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว จานชามให้สะอาดหมดจด เศษอาหารควรเก็บให้เรียบร้อย และควรให้แดดส่องมายังที่ครัว
- การปรุงด้วยความร้อน ความร้อนที่ควรใช้ควรจะเป็น 75 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 1 นาที
- การเก็บอาหาร อาหารสด อาหารคาว หรือชนิดต่างๆ ให้เก็บไว้ในที่เหมาะสม อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วไม่ควรทิ้งไว้เกิน 2 ชั่วโมง หากเก็บไว้ควรนำเข้าตู้เย็น และก่อนทานควรอุ่นด้วยความร้อนเสียก่อน