ปวดหัว

การปวดหัวมักเกิดขึ้นบ่อยจากทุกเพศทุกวัย  แต่ที่พบอย่างเสมอคือการปวดหัวไมเกรน  ไมเกรนเป็นอาการที่เจอมากที่สุดเลยก็ว่าได้  เป็นอาการปวดส่วนใหญ่ข้างเดียวและมีอาการเกิดขึ้นต่อมาอย่างเช่น  คลื่นใส้  อาเจียน  มักเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเจอกับความเครียดเป็นระยะเวลานานๆ  แต่รักษาไม่หายขากแต่สามารถที่จะทุเลาอาการปวดได้

สำหรับอาการปวดหัว  ไมเกรน นั้นส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับวัยทำงานที่อายุ 20 – 25 ปี และมักจะเป็นเพศหญิงมากกว่า 2 เท่า  ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุเกิดจากความเครียด  เวลารักษาแพทย์ต้องทราบสาเหตุความเครียดด้วยว่าเกิดจาดอะไร  และปัจจัยสำคัญของการเกิดโดยอาจจะต้องให้มีการจดบันมึกตลอดเวลา  เพื่อเป็นแนวทางสรุปในการรักษาต่อไป

ปวดคอ

การปวดคอนั้นเนื่องจาก  คอเราได้มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา  ตัวหมอนรองกระดูกนั้นจะต้องรับแรงบิด  และเมื่อมีอายุมากขึ้นนั้นข้อต่อกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกจะเสื่อม  ก่อให้เกิดอาการปวดคอมากขึ้น และอาการมักเกิดจากตำแหน่งในการทำงานของเรานั้นไม่เหมาะสม  อย่างเช่นการจ้องหน้าคอมพ์มากเกินไป  การนั่งเก้าอี้ที่สูงไม่เหมะสมในการอ่านหนังสือ  ทำให้หมอนรองกระดูกต้นคอนั้นทำงานหนัก

ในบางครั้งอาจจะเป็นหินปูที่มากดทับเส้นประสาท  และอาจจะมีผลทำให้ปวดคอและ มือ แขน ชาได้  เดินไม่ถนัด รวมไปถึงหมอนรองกระดูกเสื่อมถึงไปกดทับหลอดเคลื่อนไปเลี้ยงสมอง  ทำให้มีอาการอื่นๆ  อย่างเช่นมึนๆที่หัว การรักษาจะมีการให้ตาตามอาการ  หรืออาจจะต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไข

ปวดข้อ

ไม่ว่าจะเป็นข้อส่วนไหนก็สามารถที่จะปวดได้ทั้งนั้น  เพราะว่าบริเวณปลายกระดูที่มาชิดกันนั้น  จะมีกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่หล่อลื่น  ทำให้ไม่มีอาการเจ็บเมื่อเคลื่อนไหวแต่เมื่อกระดุกอ่อนเสื่อม  จะไม่สามารถที่จะหล่อลื่นให้ปกติเหมือนเดิม  จึงทำให้บริเวณกระดูกเจ็บเมื่อขยับ

การป้องกันไม่ให้กระดูกอ่อนเสื่อมนั้นหากคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปควรลด น้ำหนักและการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ  หลีกเลี่ยงการยืนหรือว่าเดินเป็นเวลานานๆ  ไม่ยกของหนักเกินไป

ปวดท้อง

ปวดบริเวณท้องนั้น  อาจจะเกิดมาจาดหลายสาเหตุ เกิดจากโรคต่างๆ อย่างเช่นโรคกระเพราะอาหาร จะปวดบริเวณ  ใต้ลิ้นปี่  หากปวดรุนแรงอาจจะมีอาการคลื่นใส้อาเจียน รวมไปถึงปวดบริเวณอื่นๆ  ไส้ติ่วอักเสบที่ มี่ปวดรอบๆสะดือและอื่นๆ

ปวดหน้าอก

สำหรับหวดที่หน้าอกหรือว่าปวดที่บริเวณหัวใจ  มักเกิดขึ้นจากผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ  โรคหลอดเลือดหัวใจ  อาการแหน่นที่หน้าอก  หายใจไม่ค่อยออก  สำหรับอาการเหล่านี้ต้องอยู่ใกล้ชิดกับแพทย์และหลีกเลี้ยงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น  ออกกำลังอย่างพอเหมาะ