สิวขึ้นที่แก้มเกิดจากอะไร ? วันนี้เราขออาสาไขข้อข้องใจนี้ให้สาว ๆ ได้รู้ จะได้หน้าสวยใสกันอย่างถ้วนหน้าเลยเนอะ
หากสาว ๆ คนไหนกำลังนอยด์กับสิวเจ้ากรรม เพราะมันดันขึ้นที่แก้มแน่นเอี๊ยด จนคุณแฟนไม่กล้าหอมแก้มแล้ว แม้จะไปรักษากี่ที่ ๆ ก็ไม่หายขาดอย่างที่ต้องการ อ๊ะ ... ถ้ารักษาทีไรสิวที่แก้มก็ไม่หายไปสักที กระปุกดอทคอมขอบอกเลยว่าเป็นเพราะ 5 สาเหตุนี้แล้วล่ะค่ะ ถ้าเลี่ยงได้ละก็รับรองว่าสิวที่แก้มจะค่อย ๆ ลดลง จนหายขาดไปในที่สุดเลยล่ะ
ดื่มแอลกอฮอล์
สาวนักดื่มต้องรู้ไว้ ว่าการดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของสิวที่แก้ม เพราะการดื่มจะส่งผลต่อความสมดุลของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับผิวนั่นเอง ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นตัวการทำลายตับ แน่นอนว่าสิวจะผุดขึ้นมาที่แก้มจนหมดสวยเลยล่ะ
สูดอากาศพิษ
รู้นะว่าสาว ๆ ที่ใช้ชีวิตทำงานในเมือง ต้องออกมาเจอฝุ่นควันมลพิษทุกเช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากสงสัยว่าทำไมสิวที่แก้มขึ้นบ่อยและไม่หยุดขึ้นสักที บอกเลยว่าเป็นเพราะปอดของคุณกำลังมีปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากการสูดดมควันพิษหรือควันบุหรี่เข้าไปนี่แหละค่ะ
คุยโทรศัพท์มือถือ
อีกหนึ่งตัวการที่สาว ๆ หลายคาดไม่ถึงว่าจะทำให้เป็นสิวที่แก้มได้ ก็คือโทรศัพท์มือถือของเรานี่แหละค่ะ เพราะเวลาคุยโทรศัพท์แต่ละที คุณสาว ๆ ก็ต้องเอามาแนบที่แก้ม ซึ่งรู้หรือไม่ว่าบนหน้าจอโทรศัพท์น่ะคือแหล่งรวมสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นเลย ฉะนั้นควรเช็ดทำความสะอาดหน้าจอทุกวัน หรืออาจจะเปลี่ยนมาใช้สมอลทอล์คเวลาคุยก็ได้
นอนบนปลอกหมอนสกปรก
ถ้าเป็นสิวที่แก้มไม่หายขาดสักที แม้รักษาดียังไงก็ขึ้นมากวนใจเสมอ บอกเลยว่ามันอาจจะเป็น ปลอกหมอนที่สาว ๆ ใช้หนุนนอนทุกคืนนี่แหละ คือแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียเลยค่ะ ฉะนั้นควรถอดมาซักบ้างสัปดาห์ละครั้ง เพียงเท่านี้ปัญหาสิวที่แก้มก็จะค่อย ๆ หายไปแล้วล่ะ
ดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดี
ถ้าสาว ๆ คนไหนมีสิวขึ้นที่แก้มด้านล่างเยอะละก็ สาเหตุก็มาจากการที่ดูแลช่องปากไม่ดี จนทำให้เหงือและฟันมีปัญหานั่นเอง รู้แบบนี้แล้วใส่ใจในการดูแลช่องปากให้มากขึ้น ด้วยการแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟัน หลีกเลี่ยงของหวานที่จะทำให้ฟันผุ แล้วอย่าลืมไปพบทันตแพทย์เป็นประจำด้วยนะคะ
ถ้าหากต้องทุ่มเงินรักษาสิวที่แก้มไปมากมาย แต่ไม่ยอมเลี่ยง 5 สาเหตุนี้สักที บอกเลยว่ากี่ปี ๆ สิวที่แก้มก็ยังจะอยู่กับคุณไปเรื่อย ๆ แน่เลยล่ะ ทางที่ดีรีบปฏิบัติตามซะตั้งแต่วันนี้ เพื่อหน้าสวยใสในวันข้างหน้ายังไงล่ะคะ ^_^
ข้อมูลจาก : bustle.com และ noskinproblems.com