เทียนหอมระเหยอาจก่อมะเร็งได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบจุดเทียนหอมในห้องที่อากาสไม่ถ่ายเท เรื่องนี้มีงานวิจัยยืนยันมาแล้ว
เทียนหอมระเหย เป็นหนึ่งในเครื่องหอมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบและนำมาใช้จุดเพื่อผ่อนคลาย ลดความเมื่อยล้า ซึ่งก็มีหลายกลิ่นให้เลือกตามใจชอบ แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าเทียนหอมนี้อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดเสมอไป อย่างที่ผลวิจัยล่าสุดที่เว็บไซต์เดลี่เมลนำมาเปิดเผย พบว่าเมื่อจุดเทียนแล้ว สารเคมีที่อยู่ในเทียนหอมระเหยจะไปทำปฏิกิริยากับอากาศกลายเป็นสารก่อนมะเร็งสุดอันตราย แถมยังเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกเพียบ !
ศาสตราจารย์ Alastair Lewis แห่ง National Centre for Atmospheric Science จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เปิดเผยผลการวิจัยที่น่าตกใจว่า การจุดเทียนหอมระเหยในห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีที่มาจากเทียนหอมระเหยซึ่งไปทำปฏิกิริยากับอากาศจนกลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
โดยสารที่พบเป็นสารเคมีในกลุ่มสารเคมีไอระเหย (Volatile organic chemicals หรือ VOCs) ได้แก่ สารเบนซินซึ่งมักพบในควันพิษจากท่อไอเสีย, สารอัลฟาไพนีน (alpha-pinene) พบมากในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด นอกจากนี้ก็ยังพบสารไลโมนีน (Limonene) ที่ถึงแม้จะมีคุณสมบัติในการสร้างกลิ่นหอม แต่เมื่อเกิดการรวมตัวของสารชนิดนี้ 2 โมเลกุลเข้าด้วยกันแล้วจะกลายสภาพเป็นฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งจะมีความอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม
นั่นเพราะฟอร์มาดีไฮด์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งจมูกและโรคมะเร็งคอ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างร้ายแรงหากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากจนเกินไป โดยมีอาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอเป็นเลือด ระคายเคืองตา และเลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มาดีไฮด์หรือไลโมนีนก็ไม่สามารถจะสลายหายไปเองได้ และจะยิ่งสะสมมากขึ้นหากบริเวณเหล่านั้นไม่ได้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี
ทราบถึงความอันตรายของสารชนิดนี้กันแล้ว ใครที่ชอบจุดเทียนหอมระเหยในห้องที่ปิดทึบ ควรเลี่ยงอย่างเด็ดขาดเลย แม้ว่าจะช่วยให้กลิ่นหอมมากขึ้น แต่เบื้องหลังกลิ่นหอมเหล่านั้นก็อาจจะนำมาสู่ภัยสุขภาพในอนาคตได้ หากต้องการใช้เทียนหอมควรจุดในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกดีกว่านะคะ